“เอสเอ็มอีแบงก์” ปรับโครงสร้างสาขาใหม่ 99 สาขาทั่วประเทศ กระจายอำนาจความรับผิดชอบ แบ่งเป็น 3 ประเภท เน้นสอดคล้องศักยภาพแต่ละพื้นที่ รองรับแผนปฏิบัติการเชิงรุกในปี 2551
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เผยว่า ธนาคารได้ปรับโครงสร้างบทบาทหน้าที่ศูนย์ธุรกิจของธนาคารทั้งหมด 99 แห่ง โดยได้เปลี่ยนชื่อจากเดิมเรียก "ศูนย์ธุรกิจ" เป็น "สาขา และ สำนักงานผู้แทน" มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การปรับบทบาทดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพแต่ละพื้นที่ในการให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนปฏิบัติการเชิงรุกของธนาคารในปี 2551 ซึ่งประกอบด้วยหน้าที่หลัก 4 ด้าน คือ การเพิ่มรายได้ลดเอ็นพีแอล การควบคุมค่าใช้จ่าย และการบริหารจัดการโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ
สำหรับการแบ่งบทบาทสาขาเป็น 3 ประเภท คือ 1.สาขาเต็มรูปแบบ (Full Branch) เป็นสาขาขนาดใหญ่ของธนาคารให้บริการครบวงจร ทั้งด้านสินเชื่อและการจัดกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ รวมถึงในอนาคตมีบริการ Counter Payment เป็น โดยประกอบด้วย 1 สำนัก และ 9 สาขา เช่น สำนักพหลโยธิน เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครปฐม ชลบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี และสงขลา
2. สาขาทั่วไป (Branch) แบ่งเป็น 52 สาขา เช่น พะเยา กาญจนบุรี ราชบุรี อุบลราชธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช เป็นต้น และ 3. สำนักงานผู้แทน (Representative Office) จะมีจำนวน 37 สำนักงานผู้แทน
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการจัดตั้งสำนักงานบริหารสาขา ขึ้นทำหน้าที่ช่วยในการกำกับดูแล ควบคุม และติดตามการปฏิบัติงานด้านการอำนวยสินเชื่อและการพัฒนาผู้ประกอบการของสายงานสาขาทั้งหมดให้ไปตามแผนงานและเป้าหมายที่กำหนดด้วย ซึ่งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างสาขาครั้งนี้ จะช่วยให้การทำงานของสาขากระชับ รวดเร็ว มีความชัดเจน และสามารถให้บริการที่ดีกับผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป
