“แม่กิมฮวย”เพิ่มค่าสินค้าเกษตร ส่ง ‘ไชโป้วหวาน’สร้างชื่อต่างแดน

จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีฝีมือในการนำพืชผักมาดอง ที่ถือเป็นวิธีการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง แต่ใครจะคิดว่าวิธีการง่ายๆ เช่นนี้ จะสร้างชื่อให้ “ไชโป้วหวานแม่กิมฮวย” (เดิมรู้จักในนามแม่ฮวย) โด่งดังไปไกลถึงต่างแดน กลายเป็นวัตถุดิบหลักในเมนูอาหารไทยที่ฝรั่งรู้จัก อย่าง ‘ผัดไทย’ ที่จะขาดส่วนผสมอย่างหัวไชโป้ว ไปไม่ได้

เส้นทางของไชโป้วหวานแม่กิมฮวย เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางในการดำเนินธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญ และภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวนานในการถนอมอาหารมาปรับใช้ โดย ทิพวัลย์ แววทอง ผู้เป็นลูกสาว ได้เล่าว่า เดิมผู้เป็นพ่อ ได้ทำไชโป้วเค็มส่งลูกค้าในกรุงเทพฯ มาก่อน โดยปลูกหัวไชเท้าและรับซื้อบางส่วนมาจากพื้นที่บริเวณใกล้เคียง (บ้านกล้วย และโคกหม้อ) ต่อมาได้เริ่มทำเพิ่มขึ้นและขยายพื้นที่การเพาะปลูก รวมถึงรับซื้อเพิ่มขึ้นด้วย ในละแวก อ.สวนผึ้ง จอมบึง จ.ราชบุรี และ จ.กาญจนบุรี ส่วนมารดา เป็นแม่ค้าที่ตลาดเจ็ดเสมียน โดยขายกล้วยทอด และทำผักกาดดอง ซึ่งเป็นพืชผักเกษตรแปรรูปตามฤดูกาล เช่น ผักกาดดองเปรี้ยว, แตงไทยดอง, หอมแดงดอง และดองหัวไชเท้าสด เป็นต้น

จนกระทั่งในช่วงนั้นเริ่มมีคู่แข่งในการทำไชโป้วเค็มกันอยู่หลายราย เนื่องจากบริเวณนั้นเกษตรกรนิยมปลูกหัวไชเท้ากันมาก และก็นำมาแปรรูปเป็นไชโป้วเค็มเช่นกัน ทำให้ครอบครัวนี้ต้องเปลี่ยนรูปแบบสินค้า ด้วยการนำไชโป้วมาดองแบบหวาน หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของมารดาเอง ที่จะใช้น้ำตาลทรายล้วนๆ และใส่ใบเตยเท่านั้น เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม มาเป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงทุกขั้นตอนจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ในคุณภาพ จนได้ผลิตภัณฑ์ที่สะอาด กรอบ อร่อย ปลอดภัย เนื่องจากไชโป้วหวานแม่กิมฮวยไม่ใส่สี ขัณฑสกร และบอแรกซ์

“หลังจากที่คุณแม่ได้ทดลองทำไชโป้วหวาน ก็เริ่มขายที่บ้านและตลาดสด จนเป็นที่รู้จักของคนในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น และขึ้นแท่นเป็นของฝาก ประจำ จ.ราชบุรี แล้ว จึงลองส่งผลิตภัณฑ์เข้าประกวดสินค้าโอทอปในปี 2546 และได้รับการคัดสรรเป็น OTOP Product Champion 5 ดาว ระดับประเทศ เรื่อยมาจนถึงปี 2549 ซึ่งการที่เราได้เป็นสินค้าโอทอประดับ 5 ดาว ทำให้ช่องทางตลาดกว้างขึ้น”

และเพื่อเป็นการตอกแบรนด์ “ไชโป้วหวานแม่กิมฮวย” ให้เพิ่มขึ้นทางทิพวัลย์ จึงได้กระจายสินค้าไปตามซูเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่อย่าง ห้างเทสโก้ โลตัส และร้านค้าขนาดย่อม เช่น ฟู้ดแลนด์, โกลเด้น เพลส และร้านสังคมสุขภาพ (ร้านในสถานีบริการน้ำมันบางจาก) เป็นต้น รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ออกแสดงตามงานโอทอป และงานของกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ อีกด้วย

สำหรับการส่งออกไปต่างระเทศ จะเน้นประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา ส่วนในแถบเอเชีย ได้กระจายสินค้าไปที่เวียดนาม สิงคโปร์ และล่าสุดได้เจรจากับประเทศโอมาน เพื่อส่งสินค้าไปจำหน่ายให้กับร้านอาหารและภาคอุตสาหกรรมของแต่ประเทศ

“ไชโป้วหวานแม่กิมฮวยของเรา ถือว่าเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการประกอบอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นผัดไทย ข้าวต้ม หรืออาหารหลากหลายชนิดที่ลูกค้าจะสามารถนำไปดัดแปลงได้ ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมอาหารเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่ทำให้เรากระจายสินค้าไปต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งรสชาติการส่งไชโป้วหวานออกไปยังต่างประเทศ ทางเราจะมีการปรับรสชาติความหวานให้แตกต่างกันด้วย เพราะลูกค้าในแต่ละประเทศมีรสนิยมการบริโภคไม่เหมือนกัน อย่าง ประเทศจีน เราต้องปรับลดความหวานลง ในขณะที่การขายในไทย จะเน้นความหวานที่มากกว่า เป็นต้น”


ส่วนกำลังการผลิตไชโป้วหวานแม่กิมฮวย อยู่ที่ 4-5 ล้านกิโลกรัม/ปี (หัวไชเท้าสด) ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี โดยเมื่อปีที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้น 10% ที่เกิดจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมาจะมีผู้ประกอบการเริ่มหันมาทำไชโป้วหวานกันมากขึ้นก็ตาม แต่ด้วยการที่ไชโป้วหวานแม่กิมฮวย เป็นเจ้าแรกที่คิดค้นสูตรขึ้นมาก่อน รวมถึงโรงงานที่ผลิตยังได้รับมาตรฐาน GMP , HACCP และเครื่องหมายฮาลาล ทำให้ลูกค้าค้าไว้ใจในเรื่องของคุณภาพ และรสชาติที่โดดเด่นกว่าผู้ประกอบการรายอื่น

ไม่น่าเชื่อว่าการแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตรที่อาศัยภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน จะกลายเป็นสินค้าส่งออกไปเกือบทุกทวีปของโลก ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ มีธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืน หลังจากที่นำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมมาต่อยอดเพื่อหลีกหนีคู่แข่ง

***สนใจติดต่อ 081-806-1527***