มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) วิทยาเขตราชบุรี พัฒนา “สถานีวิจัยและศูนย์เรียนรู้การตรวจวัดคาร์บอน” เพื่อเป็นพื้นที่เรียนรู้ในการนำข้อมูลวิจัยระยะยาวกว่า 10 ปีสู่การใช้ประโยชน์จริง และสนับสนุนเป้าหมายประเทศด้าน Carbon Neutrality และ Net Zero อย่างมีคุณภาพ
รศ.ดร.อำนาจ ชิดไธสง อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) เปิดเผยว่า สถานีแห่งนี้พัฒนามาจาก “หอคอยตรวจวัดคาร์บอน” ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Eddy Covariance โดยหอคอยสูง 20 เมตรกลางผืนป่าแห่งนี้บันทึกข้อมูลสำคัญทั้งคาร์บอน น้ำ อุณหภูมิ และความชื้น เพื่อใช้ติดตามการปล่อยและการกักเก็บคาร์บอนของป่าเต็งรังในพื้นที่ มจธ.ราชบุรี
ระบบนิเวศป่านั้น “มีชีวิต” และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หอคอยแห่งนี้เป็นเสมือนตาและหูของนักวิทยาศาสตร์ในการเฝ้ามองและรับฟัง “ลมหายใจของป่าเต็งรัง” เพื่อติดตามว่าแต่ละวัน แต่ละช่วงชีวิตของป่า มีการตอบสนองต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ส่วนการตรวจวัดการปล่อยคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีนี้ก็เปรียบได้กับการ “จับชีพจรของป่า” หรือ “วัดจังหวะหัวใจของป่า” ข้อมูลที่ได้ช่วยบ่งบอกว่าป่ากำลังมีความสุข อยู่ในภาวะเครียด หรือมีสุขภาพเป็นอย่างไร หากป่ามีสุขภาพดี สิ่งที่รอบๆป่ารวมทั้งมนุษย์เราก็ย่อมได้รับผลดีไปด้วยเช่นกัน
นอกจากงานวิจัยเชิงลึก สถานียังทำหน้าที่เป็น “ห้องเรียนกลางป่า” สำหรับนักศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ใช้เป็นพื้นที่พัฒนาเทคโนโลยีตรวจวัดคาร์บอน การประยุกต์ข้อมูลดาวเทียมร่วมกับข้อมูลจากสถานี และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI และ Big Data เพื่อถอดรหัสพฤติกรรมที่ซับซ้อนของระบบนิเวศป่าไม้ภายใต้ภาวะภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง


