xs
xsm
sm
md
lg

NARIT เผย ลูกไฟเหนือท้องฟ้าภาคกลางและภาคตะวันออกของไทย ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 25 ตุลาคม 2568 คาดอาจเป็นดาวตกชนิดระเบิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผยในช่วงเวลาประมาณ 00:28 น. เหนือบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศไทย ได้เกิดลูกไฟสว่างวาบตามด้วยเสียงดัง โดยไม่มีรายงานความเสียหายและเกิดอันตราย จากหลักฐานที่ปรากฏทั้งภาพถ่ายและคลิปวิดีโออย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดีย เบื้องต้นคาดว่าเป็น “ดาวตกชนิดระเบิด” (Bolide) ที่อาจมากับฝนดาวตกโอไรออนิดส์ (Orionids) ทั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดาวหางเลมมอนแต่อย่างใด


จากลักษณะของดาวตกที่ปรากฏในคลิปวิดีโอตามโซเชียลมีเดียเหล่านี้ คาดว่าเป็นดาวตกชนิดระเบิด (Bolide) ที่มีความสว่างมากกว่าแมกนิจูดปรากฏ -14.0 เป็นต้นไป (สว่างมากกว่าดวงจันทร์เต็มดวง) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีระดับความสูงอยู่ที่ 80 ถึง 120 กิโลเมตร จึงสามารถสังเกตเห็นได้หลายพื้นที่ในประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 2 ตุลาคม - 7 พฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีปรากฏการณ์ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ที่มีต้นกำเนิดจากดาวหางฮัลเลย์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ดาวตกชนิดระเบิดดวงนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของฝนดาวตกดังกล่าว ที่จะมีอัตราการตกเฉลี่ยสูงสุดประมาณ 20 ดวงต่อชั่วโมง ในคืนวันที่ 21 ถึงรุ่งเช้า 22 ตุลาคม 2568


อ่าน : “ฝนดาวตกโอไรออนิดส์” เศษฝุ่นที่หลงเหลือจากดาวหางฮัลเลย์ 


ในประเทศไทย เคยเกิดปรากฏการณ์ดาวตกชนิดระเบิดจากฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ (Perseids) เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม วัตถุที่กลายเป็นดาวตกลูกนี้ ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล “วัตถุใกล้โลก” (Near-Earth Object : NEO) แต่อย่างใด ซึ่งในฐานข้อมูลของศูนย์การศึกษาวัตถุใกล้โลก ห้องปฏิบัติการเครื่องยนต์ขับเคลื่อนไอพ่น (Jet Propulsion Laboratory หรือ JPL) ขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกา ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2568 [1] ระบุว่ามีจำนวนดาวเคราะห์น้อยใกล้โลกที่ตรวจพบแล้ว 39,771 ดวง แบ่งเป็น

- ขนาดใหญ่กว่า 140 เมตร 11,466 ดวง
- ใหญ่กว่า 1 กิโลเมตร 877 ดวง
- ดาวหางใกล้โลก 123 ดวง

แสดงว่าวัตถุใกล้โลกกลุ่มที่มีขนาดใหญ่นั้น นักดาราศาสตร์ตรวจพบหมดแล้ว มีการคำนวณวงโคจร และคาดการณ์ตำแหน่งขณะใกล้โลก และพบว่าไม่มีความเสี่ยง แต่ในส่วนวัตถุใกล้โลกกลุ่มที่มีขนาดเล็กนั้น ด้วยขนาดที่เล็กเพียงไม่กี่เมตรและระยะห่างที่ไกลในหลักล้านกิโลเมตร ทำให้เทคโนโลยีระบบการตรวจหาวัตถุในปัจจุบันยังค้นพบได้ไม่หมด แต่การพัฒนาเทคโนโลยี (ทั้งเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ ระบบควบคุม ฐานข้อมูล และระบบคำนวณวงโคจร) ทำให้นักดาราศาสตร์ตรวจพบวัตถุใกล้โลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการพุ่งชนโลกของวัตถุใกล้โลกเหล่านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น