เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ปี 2025 ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อเร็วๆ นี้ วงการวิทยาศาสตร์ได้รู้สึกตื่นเต้นกับข่าวการประมูลซื้อ - ขายอุกกาบาตก้อนหนึ่งที่มาจากดาวอังคาร ซึ่งหนักถึง 24.7 กิโลกรัม จึงนับว่าหนักมากที่สุดในบรรดาอุกกาบาตทั้งหมดที่มีต้นกำเนิดจากดาวอังคาร
การประมูลขายในราคา 170 ล้านบาทได้เกิดขึ้นที่บริษัท Sotheby's ซึ่งเป็นบริษัทประมูลวัตถุหายากจากทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ New Tork ในสหรัฐอเมริกา ธุรกรรมครั้งนี้ได้ดำเนินไปในลักษณะที่ปกปิดชื่อของคนซื้อและคนขาย
ครั้นเมื่อ ศาสตราจารย์ Paul Sereno (1957-ปัจจุบัน) แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยเป็นนักบรรพชีวินวิทยาที่สนใจไดโนเสาร์เป็นพิเศษ แต่เมื่อถึงวันนี้ Sereno ได้หันมาสนใจงานอนุรักษ์วัตถุธรรมชาติที่พบในประเทศ Niger แล้ว ได้ทราบข่าวการประมูลที่ Sotheby's เขาก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว ด้วยการตั้งคำถามเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลในการซื้อขายอุกกาบาตว่า อาจจะได้ดำเนินการไปอย่างผิดตัวบทกฎหมายระหว่างประเทศก็เป็นได้ เพราะได้มีการนำชิ้นส่วนของอุกกาบาตออกจากประเทศ Niger เข้าประเทศ Italy แล้วนำไปขายต่อในสหรัฐอเมริกา โดยที่ประเทศเจ้าของอุกกาบาต คือ Niger ไม่ได้รับผลตอบแทนใด ๆ เลย
อุกกาบาตก้อนนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า NWA 16788 (NWA มาจากคำว่า Northwest Africa) เป็นอุกกาบาตที่พบในประเทศ Niger เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2023 ณ บริเวณทะเลทราย Agadez ที่อยู่ใกล้โอเอซิส Chirfa เป็นระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
การติดตามดูเส้นทางการเคลื่อนที่ของอุกกาบาตก้อนนี้จาก Niger ถึงนคร New York ได้แสดงให้เห็นว่า อุกกาบาตได้ถูกนำไปเก็บรักษาในเบื้องต้น ที่เมือง Arezzo ในอิตาลีก่อน เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์หาองค์ประกอบของหินและแร่ที่มีในอุกกาบาต ซึ่งจะบอกให้รู้ที่มาของอุกกาบาต
ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า อุกกาบาต NWA 16788 มีต้นกำเนิดมาจากดาวอังคาร เพราะข้อมูลอุกกาบาตก้อนนี้แสดงความสอดคล้องกับข้อมูลหินและอากาศที่พบบนดาวอังคารในบริเวณที่ยาน Viking ก็เคยไปเก็บมาได้ เมื่อปี 1975 ดังนั้นอุกกาบาตนี้จึงเกิดจากการที่ดาวอังคารถูกอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชน ทำให้สะเก็ดที่เกิดขึ้น ได้กระเด็นลอยไปในอวกาศ จนมาตกสู่โลก หลังจากที่ได้เดินทางไกลเป็นระยะทางประมาณ 225 ล้านกิโลเมตร
จากเมือง Arezzo อุกกาบาตก็ได้ถูกนำไปแสดงให้ประชาชนได้ตื่นตระหนกและชื่นชมที่ Italian Space Agency ในโรม จากนั้นก็ถูกส่งต่อไปขายที่ New York
เมื่อรัฐบาล Niger เอง ทราบข่าวการประมูลก็ตั้งประเด็นในทำนองเดียวกับ Sereno การสงสัยนี้ จึงมีผลทำให้บริษัท Sotheby's ต้องออกมายืนยันว่า การซื้อ-ขายอุกกาบาตทุกขั้นตอน ได้ดำเนินไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ
แต่เมื่อกฎหมายซื้อ-ขายวัสดุธรรมชาติที่มีในปัจจุบัน มิได้ระบุว่า วัสดุธรรมชาติได้ รวมถึงวัสดุต่างดาว (อุกกาบาต) ด้วย การตีความให้ครอบคลุม NWA 16788 จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป
แม้ว่าโลกจะถูกอุกกาบาตพุ่งชนและถล่มมาเป็นเวลานานนับหลายพันล้านปี และมนุษย์ได้เห็นฝนดาวตกมานานนับล้านปีแล้วก็ตาม แต่ความสนใจของนักดาราศาสตร์ที่มีต่ออุกกาบาตก็เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อประมาณ 230 ปีก่อนนี้เอง
เพราะในวันที่ 16 มิถุนายน ปี 1794 ที่เมือง Siena ในแคว้น Tuscany ของอิตาลี ขณะเวลา 1 ทุ่ม ท้องฟ้าเหนือเมืองได้เริ่มเปลี่ยนสีจากสีฟ้าเป็นสีแดงคล้ำ แล้วปรากฏว่ามีเมฆก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งลอยมาจากทางทิศเหนือของเมือง จากนั้นก็มีเสียงท้องฟ้าคำรามที่ดังเหมือนเสียงปืนใหญ่ยิง ต่อมาอีกไม่นานก็มีฝนตกลงมาเป็นห่าใหญ่ แต่ฝนนั้น มิใช่ฝนน้ำ หรือฝนหิมะ หรือฝนลูกเห็บ กลับเป็นฝนก้อนหินขนาดเล็กจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้ได้สร้างความตื่นตระหนกตกใจ กลัว และประหลาดใจให้แก่ชาวเมืองมาก เพราะไม่มีใครได้เคยประสบพบเห็นมาก่อน หลายคนคิดว่าตนกำลังเผชิญวันสิ้นโลก
แต่ก็มีหลายคนที่พยายามอธิบายที่มีของฝนหินว่า คงมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ Vesuvius ซึ่งได้คำรามและพ่นควันกับละอองฝุ่นออกมามากมาย เมื่อ 18 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนหินจะตก ดังนั้นจึงเป็นเป็นไปได้ว่าละอองฝุ่นภูเขาไฟได้รวมตัวกันเป็นก้อนหิน
แต่คำชี้แจงนี้ คนฟังหลายคนคิดว่าฟังไม่ขึ้น เพราะ Vesuvius ตั้งอยู่ทางใต้ของเมือง Siena และเมฆที่นำฝนหินมาตกนั้น ลอยมาจากทางทิศเหนือของเมือง
ดังนั้นคำอธิบายเรื่องฝนหินจึงยังไม่มี เพราะไม่มีใครเคยคิดว่าบนท้องฟ้ายังมีดาวเล็กดาวน้อยอีกเป็นจำนวนมาก ที่โคจรอยู่หลังดาวอังคารและอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี เพราะแม้แต่ Isaac Newton (1643-1727) เอง ก็ไม่เคยคิดว่า สุริยจักรวาลจะมีดาวขนาดเล็กอีกอยู่ข้างหลังดาวอังคารอีกมากมาย
Siena ณ เวลานั้นเป็นเมืองวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ของอิตาลี มีจำนวนประชากรประมาณ 30,000 คน มีวิหารยุค Renaissance มีมหาวิทยาลัยประจำเมือง และเป็นสถานที่ ๆ หนุ่มอังกฤษที่เป็นชนชั้นสูงทุกคน ในคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 ถ้าจะได้รับการยอมรับว่าเป็นคนมีการศึกษา จะต้องไปเยือน
ในปี 1794 ที่เกิดเหตุการณ์ฝนหินตกที่เมือง Siena มีนักฟิสิกส์ที่เก่งดนตรีชาวเยอรมันคนหนึ่งชื่อ Ernst F. F. Chladni (1756-1827) ได้เรียบเรียงตำราชื่อ “On the Origin of the Iron-Masses” ที่อธิบายว่า บนท้องฟ้าอาจจะมีก้อนหินเหล็กก็ได้ เพราะเวลาสุริยจักรวาลถือกำเนิด จากการรวมตัวของก้อนหินที่มีขนาดใหญ่น้อย อาจจะมีก้อนหินบางส่วนที่มิได้รวมติดไปเป็นกลุ่มด้วย และก้อนหินเหล่านี้เองที่ได้ตกลงในเมือง Siena
ความคิดของ Chladni ในทำนองนี้ ได้ถูกนักวิชาการส่วนใหญ่คิดว่า เป็นความคิดที่ “เพี้ยน” มาก และบางคนก็ได้กล่าวเสียดสีว่า ก้อนหินที่กระทบศีรษะของ Chladni นี้เอง ที่ทำให้เขาคิดเช่นนั้น
อีกหนึ่งปีต่อมา คือ ในวันที่ 13 ธันวาคม ปี 1795 ขณะเวลาบ่ายสามโมง ที่หมู่บ้าน Wold Newton แคว้น Yorkshire ในอังกฤษ ได้เกิดเหตุการณ์อุกกาบาต หนัก 25 กิโลกรัมตก ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ที่ลึกครึ่งเมตร ด้าน Heinrich Wilhelm Olbers (1758–1840) แพทย์ชาวเยอรมันผู้คลั่งไคล้ดาราศาสตร์ ได้พบดาวเคราะห์น้อยดวงที่ 2 ชื่อ Pallas กับดวงที่ 4 ชื่อ Vesta ได้เรียกบรรดาก้อนหินที่ตกจากฟ้าว่าหิน Chladni และให้ข้อคิดว่าก้อนหินเหล่านั้น อาจจะเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟบนดวงจันทร์ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ได้
ครั้นเมื่อเหตุการณ์อุกกาบาตตกได้เกิดขึ้นอีกที่เมือง Evora ในเขต Alentejo ของโปรตุเกส และที่เมือง Benares ในอินเดีย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ปี 1796 และวันที่ 19 ธันวาคม ปี 1798 โดยมีน้ำหนัก 3 กิโลกรัม และ 7 กิโลกรัม ตามลำดับ Joseph Banks (1743-1820) ซึ่งเป็นนายกราชบัณฑิตสถานของอังกฤษ จึงได้เสนอแนะให้นักวิทยาศาสตร์อังกฤษเริ่มศึกษาปรากฏการณ์หินร่วงตกจากฟ้าอย่างจริงจัง
วิทยาการด้านอุกกาบาตวิทยา (meteoritics) จึงถือกำเนิด เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับอุกกาบาตที่สำคัญและน่ารู้ เช่นว่า อุกกาบาตถือกำเนิดได้อย่างไร จากเหตุการณ์อะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง แหล่งกำเนิดของมันคืออะไร มีสมบัติทางกายภาพลักษณะใดบ้าง มันนำประโยชน์อะไรมาสู่โลกได้บ้าง (เชื้อโรค น้ำ แร่ธาตุ สิ่งมีชีวิต) เราจะสังเกตเห็นและบอกตำแหน่งที่มันตกได้อย่างไร อุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่ มันจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์บนโลกหรือไม่ และนักวิทยาศาสตร์กับนักเทคโนโลยีจะปกป้องโลกให้รอดพ้นจากเหตุการณ์วันสิ้นโลกได้อย่างไร เป็นต้น
ในที่สุดความรู้เกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของอุกกาบาตก็ได้เกิดขึ้น ณ เวลาดึกของคืนวันขึ้นปีใหม่ คือ ในวันที่ 1 มกราคม ปี 1801 เมื่อ Giuseppe Piazzi (1746–1826) ซึ่งเป็นนักบวชแห่งหอดูดาวที่ Palermo ในอิตาลี ได้เห็นจุดสว่างจุดหนึ่งเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ในเบื้องต้นเขาคิดว่ามันเป็นดาวหางดวงใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จัก แต่การคำนวณวิถีโคจรของมันโดยนักคณิตศาสตร์นามระบือชื่อ Carl Friedrich Gauss (1777-1855) ในเวลาต่อมาได้แสดงให้เห็นว่า วงโคจรของดาวดวงใหม่ที่ Piazzi เห็นนี้ มีลักษณะแทบจะเป็นวงกลมแทนที่จะเป็นวงรีเหมือนดาวหางดวงอื่น ๆ เขาจึงคิดว่ามันคงเป็นดาวเคราะห์ดวงใหม่ แต่ความความคิดนี้ก็ถูกปรับเปลี่ยนในปี 1850-2006 เพราะนักดาราศาสตร์ได้พบดาวขนาดเล็กที่โคจรในบริเวณใกล้เคียงอีกเป็นจำนวนมาก จึงถูกจัดให้เป็นดาวเคราะห์แคระ (dwarf planet) เพราะมีขนาดเล็กกว่าดาวเคราะห์ทั่วไปมาก คือ ดาวดวงใหม่นี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวเพียง 940 กิโลเมตรเท่านั้นเอง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยใช้เวลา 4.6 ปี จึงตั้งชื่อว่า Ceres ตามชื่อของเทพธิดาที่ปกป้องคุ้มครองเมือง Palermo
ในปี 2015-2016 NASA ได้ส่งยานอวกาศ Dawn ไปโคจรรอบ Ceres เพื่อถ่ายภาพที่ระยะใกล้ และ Dawn ได้รายงานผลการสังเกตว่า บนดาวมีน้ำแข็งและภูเขาไฟที่ตายแล้ว ซึ่งได้พ่นลาวาออกจากปากปล่องในรูปของน้ำแข็งด้วย
ปัจจุบันนักดาราศาสตร์ได้พบดาวเคราะห์น้อย และดาวเคราะห์แคระอีกเป็นจำนวนมากกว่าล้านดวงแล้ว และมีข้อมูลกายภาพของดาวประมาณ 800,000 ดวงแล้วเรียบร้อย โดยได้แบ่งออกเป็นชนิดย่อย ได้เป็นวัตถุที่โคจรใกล้โลก (Near Earth Object, NEO) ประมาณ 37,000 ดวง
ความรู้ทั่วไปที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติของอุกกาบาตขนาดใหญ่และหนักนั้นมีมากมาย เช่น อุกกาบาต Peary ที่ Robert E. Peary (1856-1920) พบ จากการบอกเล่าของชาว Eskimo ใน Greenland ที่ได้ใช้เหล็กที่ได้สกัดเหล็กจากอุกกาบาตมาทำเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น มีด ขวาน หอก ตั้งแต่สมัยโบราณ Peary จึงจัดการขนอุกกาบาตจาก Greenland สู่ New York เพื่อนำมาจัดแสดงที่ American Museum of Natural History การขนส่งทั้งโดยทางบก ทางเรือ และทางรถไฟ ที่ใช้เวลานาน 3 ปี ทำให้อุกกาบาตแตกเป็นหลายชิ้นส่วน โดยมีชิ้นส่วนใหญ่ที่สุด ชื่อ Ahnighito (ซึ่งแปลว่าเต็นท์) ที่หนักถึง 34 ตัน และขณะนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ใน New York มาตั้งแต่ปี 1894
ณ เวลานั้นการนำอุกกาบาตจาก Greenland มา New York ก็ได้สร้างปัญหาด้านจริยธรรม และความถูกต้องตามกฎหมายสากลมากเหมือน ณ เวลานี้ เพราะเป็นการขนย้าย “ทรัพยากรธรรมชาติ” ข้ามชาติ โดย Peary มิได้บอกใคร และได้ใช้ “ทาส” ขนย้าย ซึ่งทาสชาวเอสกิโมได้เสียชีวิตในอเมริกาในเวลาต่อมา เพราะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมไม่ได้
ปัจจุบันนี้หลุมอุกกาบาตที่เกิดจากการพุ่งชนโลก โดยก้อนหินขนาดใหญ่จากต่างดาวก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ นอกจากหลุม Barringer ที่มีปากหลุมกว้าง 1.2 กิโลเมตร และลึก 170 เมตร ที่ Arizona แล้วก็ยังมีหลุมอุกกาบาตที่กว้างใหญ่และลึกอีกหลุมหนึ่งในเยอรมนีด้วย เพราะมีเมือง Nördlingen ตั้งอยู่ภายในหลุมด้วย
Nördlingen เป็นเมืองที่ถือกำเนิดตั้งแต่ยุคกลาง (คือ ประมาณปี 500-1,500) โดยหลุมอุกกาบาตที่เมืองนี้ตั้งอยู่ภายในมีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวประมาณ 24 กิโลเมตร ตัวเมืองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Munich เพราะในอุกกาบาตมีผลึก แร่ ควอทซ์ ในปริมาณมาก ดังนั้นตัวเมืองจึงถูกสร้างด้วยหิน suevite แม้แต่โบสถ์ St. George ประจำเมือง และถนนหนทางในเมืองก็ยังมีเกล็ด carbon (เพชร) ขนาดเล็กประปราย ที่บริเวณใกล้หลุม Nördlingen Ries นี้ ยังมีหลุมอุกกาบาตอีกหลุมหนึ่งชื่อ Steinheim Basin ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 40 กิโลเมตร หลุมอุกกาบาตทั้งสองนี้ จึงเป็นหลุมอุกกาบาตรคู่แฝด (double impact crater) ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีมาก และได้ถูกค้นพบเมื่อปี 1960 โดยนักดาราศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงชื่อ Eugene M. Shoemaker (1928-1997) ผู้ได้พบเหตุการณ์ดาวหาง Shoemaker-Levy 9 พุ่งชนดาวพฤหัสบดี เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1994
เพราะเหตุว่าอุกกาบาตเป็นวัตถุหายากเป็นพิเศษ ดังนั้นมันจึงมีราคาแพงมาก พิพิธภัณฑ์และคนที่มีฐานะดีหลายคน จึงมีงานอดิเรกเป็นงานเก็บสะสมอุกกาบาต ในทำนองเดียวกับงานเก็บสะสมของมีค่าอื่น ๆ เช่น เพชร พระเครื่อง เหรียญ แสตมป์ เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ
สำหรับคนที่คลั่งไคล้จะมีอุกกาบาตในครอบครองก็มักจะมีความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้จับถือวัตถุอวกาศในอุ้งมือ และคาดหวังจะนำไปขายต่อได้เมื่อถึงเวลาจำเป็น ก็อาจจะได้ราคาดี
ในส่วนของเกณฑ์พิจารณาที่นักเก็บสะสมมักจะใช้ในการตัดสินใจว่า ก้อนหินที่ตนเห็นมาจากต่างดาวหรือไม่นั้น สมาคมอุกกาบาตวิทยาได้ให้เกณฑ์อย่างหยาบๆ ว่า
1. ต้องมีสมบัติแม่เหล็ก คือ ดึงดูดกับเหล็กทั่วไปได้
2. ผิวของอุกกาบาตมักแสดงหลักฐานการพุ่งผ่านและเสียดสีกับบรรยากาศโลกจนร้อน ทำให้หินที่ผิวของอุกกาบาตหลอมละลาย
3. อุกกาบาตมักมีรูปทรงคล้ายกรวย เพราะขณะตกผ่านบรรยากาศ ด้วยความเร็วสูง รูปทรงของอุกกาบาตจึงเป็นไปตามหลักวิชาอากาศพลศาสตร์ (aerodynamics)
4. ผิวของอุกกาบาต มักจะมีรอยบาก (regmaglyph) เพราะถูกอากาศเสียดสีและกัดเซาะ จนบางส่วนของผิวได้ถูกกัดกร่อนจนเป็นหลุมเล็กๆ
นักดาราศาสตร์จึงได้จัดแบ่งอุกกาบาตออกเป็น 3 ชนิด คือ ชนิดแรกเป็นอุกกาบาตหิน ซึ่งนับว่ามีมากประมาณ 94% ของอุกกาบาตที่พบบนโลก และ 75-90% ของอุกกาบาตชนิดนี้มีแร่ silicate โดย 75-90% เป็นแร่ olivine, pyroxene, silicon และ oxygen กับของผสมพวก nickel-iron สำหรับชนิดที่สอง คือ อุกกาบาตเหล็ก เพราะประกอบด้วย iron, nickel และ cobalt เป็นส่วนใหญ่ ส่วนชนิดที่สาม คือ อุกกาบาตหิน-เหล็ก (stony-iron meteorites) เป็นของผสมระหว่าง silicate กับ nickel-iron ในประมาณมากพอๆ กัน จากจำนวนอุกกาบาตทั้งหมดที่ตก จะเป็นอุกกาบาตชนิดนี้ประมาณ 1%
การตรวจหาตำแหน่งที่อุกกาบาตตกก็เป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้โดยบุคคลคนเดียว เพราะต้องอาศัยโชคช่วย และตามปกติอุกกาบาตมักจะตกลงในทะเล แต่ถ้าตกทะลุผ่านหลังคาบ้าน หรือตกในทะเลทราย หรือตกที่ขั้วโลก ก็จะมีคนพบโดยง่าย
ที่ฝรั่งเศส ได้มีการจัดตั้งเครือข่ายให้นักดาราศาสตร์ช่วยกันติดตามดูเหตุการณ์อุกกาบาตตก เพื่อจะได้ข้อมูลอย่างละเอียดมาวิเคราะห์ตำแหน่งที่อุกกาบาตตก จากนั้นก็จะใช้คนจำนวนนับพันออกเดินค้นหา โดยหน่วยงานนี้มีชื่อว่า FRIPON จากคำเต็มว่า The Fireball Recovery and InterPlanetary Observation Network ซึ่งได้จัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2016
โครงการ FRIPON นี้ มีกล้องโทรทรรศน์ใช้จำนวน 68 กล้อง เพื่อกวาดส่องดูอุกกาบาต ดาวหาง หรือวัตถุอวกาศอื่น ๆ ที่โคจรผ่านท้องฟ้าในทุกบริเวณเหนือฝรั่งเศส เพื่อให้รู้ว่าอุกกาบาตมาจากดาวดวงใด และคนที่พบหรือประเทศที่อุกกาบาตรตก ใครจะเป็นเจ้าของก็เป็นเรื่องที่จะต้องตัดสิน ซึ่งข้อกล่าวหาและวิธีใช้ในการเรียน สถิติการตรวจหาได้ประสบความสำเร็จเพียง 1-3 ครั้งในแต่ละปี และที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ของสเปนก็มีเครือข่ายติดตามและค้นหาอุกกาบาตเช่นกัน แต่ยังประสบความสำเร็จน้อย เพราะในการค้นหาได้พบเพียง 2 ชิ้น ตลอดในเวลา 12 ปี
กล้องถ่ายภาพเส้นทางผ่านของอุกกาบาตที่สร้างโดยรัฐบาลฝรั่งเศส ได้ถูกนำมาติดตั้งเรียงรายในพื้นที่ขนาด 70-80 ตารางกิโลเมตร และหลังจากที่รู้พิกัดตำแหน่งที่ตกแล้ว ข้อมูลก็จะถูกส่งไปยังศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ Paris เพื่อยืนยัน จนได้คำตอบสุดท้าย จากนั้นกองค้นหาหลักฐานก็จะเริ่มทำงาน โดยให้ประชาชนที่อาสาสมัครออกค้นหา จนพบ โครงการนี้ยังมีผู้อาสาสมัครช่วยประมาณ 1,000 คน และทุกคนต้องผ่านการอบรมก่อน จึงจะทำงานได้
ในวารสาร Geochemical Perspective Letters ฉบับวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2024 Marissa Tremblry แห่งมหาวิทยาลัย Purdue ในสหรัฐอเมริกา ได้รายงานข่าวว่า ที่มหาวิทยาลัยของเธอ มีอุกกาบาตก้อนหนึ่ง ซึ่งถูกเก็บอยู่ในมหาวิทยาลัย ณ เมือง Lafayette รัฐ Indiana อุกกาบาตก้อนนี้จึงมีชื่อว่า อุกกาบาต Lafayette และมีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร หนักประมาณ 800 กรัม นักอุกกาบาตตรวจพบว่ามันเป็นก้อนหินที่ตกมาจากดาวอังคาร เมื่อปี 1931 เพราะได้วัดปริมาณ isotope ของธาตุต่าง ๆ ที่มีในอุกกาบาตแล้ว ก็ได้ค่าที่ตรงกับปริมาณของธาตุต่าง ๆ ที่พบในบรรยากาศเหนือดาวอังคาร และในดินบนดาวอังคารเหมือนกับที่ยาน Viking วัดได้
การตรวจวัดอายุของอุกกาบาตนี้ได้ข้อมูลว่า อุกกาบาตนี้มีอายุ 742 ล้านปี และภายในอุกกาบาตมีโมเลกุลของน้ำด้วย
ในวารสาร Universe Today เมื่อเร็วๆ นี้ Julio Fernandez แห่งมหาวิทยาลัย República ใน Uruguay ได้คำนวณพบว่า แถบดาวเคราะห์น้อย ซึ่งประกอบด้วยก้อนหินใหญ่น้อย ที่การจะรวมกันเป็นดาวเคราะห์เมื่อ 4,600 ล้านปี แต่มิได้เกิด เพราะถูกอิทธิพลแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ทำให้ก้อนหินใหญ่น้อยพุ่งชนกันเอง จนกระจัดกระจายเป็นอุกกาบาตใหญ่น้อย ครั้นเมื่อคาบโคจรของอุกกาบาตสอดคล้องเป็นจำนวนเต็มเท่าของดาวอังคารและดาวพฤหัสบดีก็จะเกิดปรากฏกำทอน (resonance) อุกกาบาตก็จะพุ่งเข้าหาดาวเคราะห์วงใน และออกไปสู่ดาวเคราะห์วงนอก แถบดาวเคราะห์น้อยจึงลดขนาดและมวลลงตลอดเวลามี 20% ผ่านเข้ามาให้ชาวโลกเห็นเป็นอุกกาบาต อีกหลายส่วนปรากฏเป็นฝนดาวตก การเข้าใจสภาพของดาวเคราะห์น้อยในแถบนี้จึงมีความสำคัญต่อวิวัฒนาการของโลกมาก
อ่านเพิ่มเติมจาก Alam, Hina. "Meteorites found in Canada cannot be removed from the country without permit". CBC News. Retrieved 14 January 2025.
ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน : ประวัติการทำงาน - ราชบัณฑิตสำนักวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ และ ศาสตราจารย์
ระดับ 11 ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ,นักวิทยาศาสตร์ดีเด่นและนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขากายภาพและคณิตศาสตร์ประวัติการศึกษา-ปริญญาตรีและโทจากมหาวิทยาลัยลอนดอน,ปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
อ่านบทความ "โลกวิทยาการ" ได้ทุกวันศุกร์