เมื่อวันที่ 24 ก.ย.นายสุวรงค์ วงษ์ศิริ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM แถลงข่าว “NSM สะท้อนมุมมองอนาคตพิพิธภัณฑ์ไทย ส่งเสริมเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจผ่านคลังวัตถุตัวอย่าง จุดประกายวิทยาศาสตร์ให้จับต้องได้!” ณ “ศูนย์บริหารคลังตัวอย่างและฐานข้อมูลพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์” อพวช. คลองห้า ปทุมธานี ว่า เดือนกันยายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งวันพิพิธภัณฑ์ไทย NSM ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์แก่ประชาชนทุกกลุ่ม ผ่านการพัฒนาพื้นที่เรียนรู้นอกห้องเรียนที่ผสมผสานความรู้กับประสบการณ์จริงผ่านพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศและพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ รวมถึงจัดนิทรรศการหมุนเวียน กิจกรรมเชิงปฏิบัติการ และเทศกาลวิทยาศาสตร์ โดยใช้แนวคิด “เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ” (Hands-on Learning) เพื่อกระตุ้นความสนใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์กับเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้สู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างทั่วถึงซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
นายสุวรงค์ กล่าวต่อว่า บทบาทที่สำคัญของ NSM คือ การเก็บรักษาและพัฒนาคอลเลกชั่น (Collection) ทางวิทยาศาสตร์ในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นวัตถุทางธรรมชาติ วัตถุสิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยี หรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นทั้งการอนุรักษ์ การศึกษาวิจัย และการนำองค์ความรู้จากคอลเลกชั่นเหล่านี้มาตีความและถ่ายทอดสู่สังคมอย่างสร้างสรรค์ เรียกได้ว่ากว่า 30 ปีของ NSM ไม่เพียงแต่รักษามรดกทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชาติให้คงอยู่เป็นหลักฐานสำคัญ หากยังทำหน้าที่เชื่อมโยงความรู้จากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้ประชาชนเห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน
“พิพิธภัณฑ์ไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในฐานะ “ผู้เก็บสะสมและบันทึกประวัติศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย” ซึ่งเป็นภารกิจที่มีคุณค่าต่อสังคมอย่างยิ่ง เพราะเรื่องราวการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่ได้สะท้อนเพียงความก้าวหน้าทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังสะท้อนวิถีชีวิต สังคม และวัฒนธรรมของประเทศในแต่ละยุคสมัยด้วย” นายสุวรงค์ กล่าวและว่า
NSM ให้ความสำคัญกับการรวบรวม คัดเลือก และอนุรักษ์ทั้งวัตถุ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ อุปกรณ์ เอกสาร ตลอดจนองค์ความรู้ที่แสดงถึงเส้นทางความคิดและความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นักประดิษฐ์ และบุคคลทั่วไปที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนประเทศ เพื่อเก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์และเป็นคลังความรู้ให้กับคนรุ่นหลัง ทั้งมิติด้านการเรียนรู้ คือการจัดเก็บองค์ความรู้และสิ่งสะสมช่วยให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้เข้าใจพัฒนาการของวิทยาศาสตร์ไทยอย่างเป็นลำดับขั้น มิติด้านแรงบันดาลใจ คือเรื่องราวความสำเร็จและความพยายามของคนไทยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน นิสิต นักวิจัย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่และมิติด้านการพัฒนา การเป็นฐานข้อมูลและหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ ช่วยให้สังคมมีต้นทุนทางปัญญาที่จะต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างยั่งยืน
นายสุวรงค์ กล่าวด้วยว่า NSM มุ่งทำหน้าที่เป็นคลังความทรงจำทางวิทยาศาสตร์ของชาติควบคู่กับการเป็นแหล่งเรียนรู้และแรงบันดาลใจสำหรับทุกวัย เพื่อให้สังคมไทยตระหนักถึงคุณค่าของวิทยาศาสตร์ในฐานะรากฐานสำคัญของการพัฒนา และเพื่อส่งต่อความรู้ ความภาคภูมิใจ และจิตวิญญาณของการแสวงหาความจริงทางวิทยาศาสตร์ไปยังคนรุ่นต่อ ๆ ไป