สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ NARIT มอบชุดท้องฟ้าจำลอง DIY ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร ให้แก่ 40 โรงเรียน จาก 31 จังหวัดทั่วไทย ที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการท้องฟ้าจำลองเพื่อการเรียนรู้ระดับโรงเรียน ประจำปี 2568 พร้อมฝึกอบรมการให้สามารถใช้งานได้เองในโรงเรียน เผยโครงการนี้ฯ จัดต่อเนื่องมา 4 ปี รวมมอบแล้ว 170 โรงเรียน สนับสนุนใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ หวังผลักดันการจัดกิจกรรมดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า กิจกรรมดาราศาสตร์เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย นำไปสู่อาชีพในอนาคต ทั้งในสายวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม แพทยศาสตร์ และสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประเทศไทยสามารถก้าวสู่การพัฒนาอย่างมั่นคง โดยศึกษาแนวทางจากประเทศในเอเชียที่มีบริบทใกล้เคียงและประสบความสำเร็จในระดับโลก เช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และฮ่องกง มีแรงงานกว่า 70% อยู่ในภาควิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขณะที่ประเทศไทยมีเพียง 30% เท่านั้น ปัญหานี้เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ประเทศยังติดกับดักรายได้ปานกลางค่อนไปทางสูงมาอย่างยาวนาน พร้อมเน้นย้ำว่า "ไม่มีทางเลือกอื่นในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน หากปราศจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี"
การที่ "ดาราศาสตร์" ได้รับการบรรจุเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของระบบการศึกษาไทย ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้จักรวาล วิทยาศาสตร์ และธรรมชาติรอบตัวอย่างเป็นระบบ พร้อมปลูกฝังความคิดวิเคราะห์ และจินตนาการเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ดาราศาสตร์ในสถานศึกษา สดร. ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ อาทิ โครงการอบรมครูเชิงปฏิบัติการด้านดาราศาสตร์ เพื่อยกระดับความรู้และทักษะการสอน โครงการกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์ สนับสนุนกล้องโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสง ขนาด 10 นิ้ว พร้อมสื่อและอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ สําหรับเป็นสื่อการเรียนการสอนแก่โรงเรียน และต่อยอดขยายผลสู่ โครงการท้องฟ้าจำลองเพื่อการเรียนรู้ระดับโรงเรียน เพื่อให้เยาวชนได้สัมผัสประสบการณ์การสังเกตท้องฟ้าอย่างใกล้ชิด กิจกรรมที่จัดขึ้นช่วยส่งเสริมความเข้าใจในเนื้อหาดาราศาสตร์ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งภายในห้องเรียนและผ่านกิจกรรมนอกเวลาเรียน อีกทั้งยังขยายโอกาสการเรียนรู้สู่ชุมชนโดยรอบ ถือเป็นการจุดประกายความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนไทย และเป็นส่วนสำคัญในการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาทุนมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอนาคต
ดาราศาสตร์จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการปลูกฝังความอยากรู้อยากเห็นทางวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชน โดยเฉพาะเมื่อเด็กได้เห็นดาวเสาร์ด้วยตาตนเองผ่านกล้องดูดาว ไม่ใช่เพียงผ่านภาพถ่ายหรือจอคอมพิวเตอร์ ประสบการณ์เช่นนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้ และเมื่อดาราศาสตร์สามารถเปลี่ยนชีวิตของเด็กได้ ก็มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงประเทศได้เช่นกัน กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณครูทุกท่าน ทุกโรงเรียนที่ได้รับชุดท้องฟ้าจำลอง DIY ในวันนี้ จะร่วมกันผลักดัน และเป็นส่วนหนึ่งในอุดมการณ์ของสถาบันฯ ในการสร้างบุคลากรแห่งอนาคตที่มีทักษะในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ดร. ศรัณย์ กล่าวปิดท้าย
“โครงการท้องฟ้าจำลองเพื่อการเรียนรู้ระดับโรงเรียน” มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนโรงเรียนที่ต้องการเริ่มต้นสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านการมอบชุดท้องฟ้าจำลอง DIY ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตร พร้อมอบรมวิธีติดตั้งและแนวทางจัดกิจกรรม ท้องฟ้าจำลองดังกล่าว สามารถใช้เป็นต้นแบบสื่อการเรียนรู้ ครูและนักเรียนสามารถคิด คำนวณ ออกแบบ และประดิษฐ์ได้เองจากวัสดุที่หาได้ทั่วไปในท้องตลาด มีต้นทุนต่ำ และใช้งานได้จริง เมื่อติดตั้งแล้วสามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมดาราศาสตร์ในโอกาสต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนดาราศาสตร์ได้ ปัจจุบันมอบแล้วรวม 170 โรงเรียน ครอบคุมพื้นที่ 68 จังหวัด โดย สดร. ตั้งเป้าที่จะมอบให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย เช่นเดียวกับการมอบกล้องโทรทรรศน์ เพื่อกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์ให้เข้าถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทย ปลูกฝังแรงบันดาลใจใฝ่รู้ทางวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก่อตั้งสถาบัน
ในปี 2568 สดร. จัดพิธีมอบชุดท้องฟ้าจำลองเพื่อการเรียนรู้ระดับโรงเรียน พร้อมฝึกอบรมการประกอบ ติดตั้ง และใช้งาน ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร และโรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ มีโรงเรียนที่ได้รับมอบชุดท้องฟ้าจำลองเพื่อการเรียนรู้ระดับโรงเรียน จำนวน 40 โรงเรียน จาก 31 จังหวัด