xs
xsm
sm
md
lg

ENTEC สวทช. ชู 5 เทรนด์พลังงานอนาคต ฉลองก้าวสำคัญ 5 ปี วิจัยเพื่อชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดประชุมยุทธศาสตร์เครือข่ายพันธมิตรการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีการก่อตั้ง เผยบทบาทในฐานะกลไกขับเคลื่อนงานวิจัยพลังงานสะอาดของประเทศ พร้อมเปิดตัว 5 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานอนาคตสู่เป้าหมาย Net Zero


ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ENTEC ก่อตั้งขึ้นจากการรวมความเชี่ยวชาญของ 2 ศูนย์ ได้แก่ เอ็มเทค และเนคเทค เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานของประเทศ โดยมุ่งเน้นวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนการขับเคลื่อนแผนพลังงานชาติ แผนบูรณาการพลังงานระยะยาวของประเทศไทย (TIEB) และนโยบายเศรษฐกิจ BCG อย่างเป็นรูปธรรม

ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ENTEC ได้พัฒนานวัตกรรมที่นำไปใช้ได้จริง อาทิ น้ำมันหม้อแปลง EnPAT จาระบีชีวภาพ และไบโอดีเซลเกรดพรีเมียม Premium H-FAME จากน้ำมันปาล์ม รวมถึงแพลตฟอร์ม Solar Sure สำหรับจัดการแผงโซลาร์เซลล์หมดอายุ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จากวัสดุในประเทศและระบบแพ็กแบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยนได้ภายใต้โครงการ Thailand BattSwap เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญ ทั้งหมดล้วนสนับสนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality ปี 2593 และ Net Zero ปี 2608 ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมพลังงานของภูมิภาค

โอกาสครบรอบ 5 ปีนี้ จึงไม่ใช่เพียงวาระสำคัญของ ENTEC หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงและเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนระบบพลังงานไทยด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สู่อนาคตที่ยั่งยืน


5 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาด สู่ Net Zero

ดร.สุมิตรา จรสโรจน์กุล ผู้อำนวยการ ENTEC กล่าวว่า ทั่วโลกกำลังเร่งเดินหน้าสู่เศรษฐกิจสีเขียวและเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดย เทคโนโลยีพลังงานสะอาดถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านจากระบบพลังงานแบบเดิมที่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ไปสู่ระบบพลังงานที่มีความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความมั่นคงในระยะยาว

ENTEC คาดการณ์ 5 เทรนด์เทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่จะมีบทบาทในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานแห่งอนาคต พร้อมกำหนดทิศทางการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มเหล่านี้ ดังนี้

1. เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF): วิจัยและพัฒนา SAF จากวัตถุดิบหมุนเวียนในประเทศ เช่น น้ำมันเหลือใช้หรือชีวมวล ร่วมกำหนดนโยบายและส่งเสริมการใช้ SAF ในอุตสาหกรรมการบินไทย

2. เซลล์แสงอาทิตย์โครงสร้างเซลล์ซ้อนที่ใช้เพอรอฟสไกต์-ซิลิคอน (Perovskite-Silicon Tandem Solar Cell): พัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงโดยผสานเพอรอฟสไกต์กับซิลิคอน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมจัดประชุมวิชาการส่งเสริมการใช้จริง

3. พลังงานไฮโดรเจน (Hydrogen Energy): พัฒนา Green Hydrogen จากพลังงานหมุนเวียน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสะอาดในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม ร่วมวางแผนนโยบายระดับชาติ

4. โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactors - SMRs): เตรียมความพร้อมด้านองค์ความรู้ บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมจัดตั้งศูนย์วิจัยและหลักสูตรเฉพาะทาง

5. ระบบกักเก็บพลังงานที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้า (Grid-scale Energy Storage): วิจัยพัฒนาแบตเตอรี่ครบวงจร ตั้งแต่วัสดุ การออกแบบ ผลิต และบริหารจัดการวงจรชีวิต เพื่อให้กักเก็บพลังงานได้มาก มีประสิทธิภาพสูง และอายุใช้งานยาว


ทั้ง 5 เทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เปิดทางสู่นวัตกรรม ธุรกิจ และการจ้างงานใหม่ในภาคพลังงานสะอาด โดยเฉพาะในประเทศที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง

ดร.สุมิตรา กล่าวทิ้งท้ายว่า  ... "ENTEC จะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งสู่ผลลัพธ์เชิงรูปธรรม โดยสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนางานวิจัยให้เป็นผลิตภัณฑ์ บริการ และโอกาสทางธุรกิจใหม่ เสริมระบบนิเวศนวัตกรรมพลังงานไทยให้เติบโตยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว"





กำลังโหลดความคิดเห็น