xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ” เก็บรักษาความหลากหลายทางชีวภาพไม่ให้สูญสิ้นในอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ในปัจจุบันพันธุ์พืชชนิดต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงในการสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งจากภัยธรรมชาติหรือจากการถูกรุกรานโดยมนุษย์ และหากไม่มีการอนุรักษ์ไว้ พันธุ์พืชเหล่านี้อาจสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติและอาจหายไปจากโลกนี้เลยก็เป็นได้

ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงได้มีการจัดตั้ง "ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ" (National Biobank of Thailand: NBT) ขึ้นมา เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์พืชชนิดต่างๆ และเก็บรักษาไว้ ในอนาคตที่อาจจะสูญพันธุ์ไปได้


ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา ผู้อำนวยการธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สวทช.กล่าวว่า ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ เกิดขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ของ สวทช. ที่มุ่งเป้าขับเคลื่อนให้เป็น “ขุมพลังหลักของประเทศ” ในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของรัฐและเอกชน ชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์สำคัญนำสู่การพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด จึงเกิดการจัดตั้งขึ้นในปี 2562 เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ ในการสนับสนุนการดำเนินงานอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพแบบระยะยาว ภายใต้การบริหารจัดการของ สวทช. เพื่อเป็นคลังสำรองให้แก่ประเทศ รวมถึงสนับสนุนการใช้ข้อมูลชีวภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านการดำเนินงานร่วมกันของนักวิจัยจาก 3 ธนาคาร คือ ธนาคารพืช (Plant bank) ธนาคารจุลินทรีย์ (Microbe bank) และธนาคารข้อมูลชีวภาพ (Data bank)

เป้าหมายสำคัญของธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ คือ การสนับสนุนการจัดเก็บสิ่งมีชีวิตนอกสภาพธรรมชาติแบบระยะยาวด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเตรียมพร้อมฟื้นคืนทรัพยากรชีวภาพให้แก่ประเทศในยามที่เกิดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มากเกินพอดี เพื่อเป็นฐานที่สำคัญของการพัฒนาตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ในการเตรียมพร้อมรับมือสภาวะวิกฤตและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การสูญเสียทรัพยากรชีวภาพอย่างถาวรในธรรมชาติ


ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ มีการจัดเก็บทรัพยากรชีวภาพผ่าน 2 ธนาคาร คือ “ธนาคารพืช” และ “ธนาคารจุลินทรีย์” ธนาคารพืชมีภารกิจด้านการเก็บอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับพืชถิ่นเดียว พืชที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และพืชที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ ส่วนธนาคารจุลินทรีย์มีภารกิจด้านการเก็บสำรองจุลินทรีย์ที่มีศักยภาพในการนำไปใช้ประโยชน์และเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ


ธนาคารทรัพยากรฯ แห่งนี้ มีองค์ความรู้ของนักวิจัยเฉพาะทางและมีความพร้อมด้านเครื่องมือสำหรับจัดเก็บตัวอย่างทรัพยากรชีวภาพในรูปแบบคงสภาพหรือคงความมีชีวิตที่อุณหภูมิเยือกแข็งถึง 3 ระดับ ระดับ - 20 องศาเซลเซียส ใช้สำหรับจัดเก็บเมล็ดพันธุ์พืชที่บรรจุในหลอดขนาด 25 มิลลิลิตร จัดเก็บได้ 100,000 หลอด ส่วนอุณหภูมิระดับ - 80 องศาเซลเซียส ใช้สำหรับจัดเก็บจุลินทรีย์และตัวอย่างชีววัสดุอื่นๆ ที่บรรจุในหลอดขนาด 2.5 มิลลิลิตร จัดเก็บได้ 300,000 หลอด นอกจากนี้ยังมีถังไนโตรเจนเหลวขนาด 1,770 ลิตร สำหรับจัดเก็บตัวอย่างเซลล์สิ่งมีชีวิตในสภาวะเย็นยิ่งยวดที่อุณหภูมิ - 196 องศาเซลเซียส


หัวใจสำคัญในการอนุรักษ์พันธุกรรมสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด คือ ความสามารถในการมีชีวิตรอดหลังการจัดเก็บในธนาคาร เพื่อให้มั่นใจว่าจะนำสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กลับมาใช้ฟื้นฟูทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศให้คงความสมบูรณ์ต่อไปได้ในอนาคต






กำลังโหลดความคิดเห็น