“วิมานหอยหอม” สิ่งประดิษฐ์ฝีมือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนปลาปากวิทยา ที่สามารถตอบโจทย์การเลี้ยงหอยหอมได้ตลอดทั้งปี สร้างอาชีพรายได้ พร้อมๆ กับการอนุรักษ์สัตว์ประจำถิ่น ที่เริ่มจะพบเจอในธรรมชาติได้ยากมากขึ้น
นางสาวกรรณิการ์ คำกลอนลือชา และ นางสาวฐิตินันท์ วงศ์ญาพ่อ นักเรียนชั้นมัธยม โรงเรียนปลาบากวิทยา อำเภอปลาบาก จังหวัดนครพนม เล่าว่า “วิมานหอยหอม” เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกคิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ ในเรื่องความต้องการบริโภค “หอยหอม” ที่มากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากหอยชนิดนี้ มีโปรตีนสูง และเมื่อนำไปประกอบอาหาร เช่น เมนูปิ้งย่าง ก็จะมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทำให้ในปัจจุบันมีคนให้นิยมนำมาประกอบอาหารกันเป็นอย่างมาก และตลาดก็มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นในทุกปีๆ ทำให้ราคาหอยหอมในปัจจุบัน อยู่ที่กิโลกรัมละ 450 – 500 บาท
เมื่อก่อนนั้นจะพบหอยหอมได้ในธรรมชาติในช่วงฤดูฝน เนื่องจากในช่วงนี้ใบไม้ที่ถูกผลักจากต้นไม้ในช่วงฤดูแล้งจะเปื่อยยุ่ยผลัดเป็นอาหารของหอยหอม และดินมีความชื้นเหมาะแก่การอยู่อาศัย คนส่วนใหญ่ก็จะได้กินหอยหอมในช่วงนี้ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูแล้งอีกครั้งหอยหอมจะมีการจำศีล
แต่ในปัจจุบันราคาหอยที่สูงขึ้นและความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการหาหอยหอมตามธรรมชาติทั้งในช่วงฤดูฝนและช่วงฤดูแล้ง ทำให้หอยหอมในธรรมชาติเริ่มมีจำนวนที่ลดลงเป็นอย่างมาก และมีผลทำให้ป่าเสื่อมโทรมลงเพราะไม่มีหอยหอมช่วยย่อยสลายเศษใบไม้ และอาจส่งผลให้หอยหอมหายไปจากธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ หากไม่มีอนุรักษ์
วิมานหอยหอมเป็นอุปกรณ์ในการใช้เลี้ยงหอยหอม สร้างขึ้นจากอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ ในชุมชน โดยโดมที่เลี้ยงหอยทำขึ้นจาก “สุ่มไก่” ซึ่งเรียกว่า “พาราโบลาโดม” ซึ่งมีต้นแบบมาจากรังปลวกที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ภายในโดมสามารถเลี้ยงหอยหอมได้ถึง 100 – 200 ตัว ซึ่งจะจำลองสภาพอากาศและค่าความชื้นภายในโดมให้เหมือนกับช่วงฤดูฝน ด้วยเซ็นเซอร์ตรวจอุณหภูมิและความชื้นจากบอร์ด KidBight เมื่ออุณหภูมิเกิน 27 องศา และความชื้นน้อยกว่า 60 % เซ็นเซอร์จะสั่งระบบพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับภายในโดม ไปพร้อมๆ กับการทำความสะอาดโดม
“ปกติชาวบ้านจะเลี้ยงหอยหอมในบ่อซีเมนแค่ในช่วงฤดูฝน เพราะมีความชื้นจากสภาพอากาศคอยเอื้ออำนวยในการเลี้ยง แต่วิมานหอยหอมสามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในโดมที่เลี้ยงได้ทุกช่วงเวลา ทำให้สามารถเลี้ยงหอยหอมได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังตอบโจทย์ในเรื่องความสะอาดของหอย เพราะหอยที่หาได้ตามธรรมชาติ อาจจะมีเชื้อโรค หรือพยาธิปนเปื้อนหากปรุงไม่สุกก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้”
ในอนาคตจะมีการเพิ่มระบบโซล่าเซลล์เพื่อใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ในการเป็นพลังงานให้กับเซ็นเซอร์ และจะมีการพัฒนาให้ออกแบบรูปร่างโดมเลี้ยงหอยให้เป็นแบบคอนโดที่สามารถเลี้ยงได้หลายชั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ในการเลี้ยง และสามารถเพิ่มจำนวนการเลี้ยงได้เพิ่มมากขึ้น
“วิมานหอยหอม” จึงเป็นสิ่งประดิษฐ์ ที่เป็นทั้งการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และยังได้อนุรักษ์สัตว์ท้องถิ่นในธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังลดต้นทุนในการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ เพราะสามารถหาอุปกรณ์ประดิษฐ์ ซ่อมแซมและพัฒนาเองได้ไม่ยาก