สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat : MRCS) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมมือถ่ายทอดความรู้จากวิทยากรที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างศักยภาพชุมชนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคเกี่ยวกับ "การสร้างศักยภาพชุมชน" สำหรับชุมชนจากประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มอบหมาย นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคเกี่ยวกับ "การสร้างศักยภาพชุมชน" สำหรับชุมชนจากประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ภายใต้การดำเนิน โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การแปรรูปผลผลิตการเกษตรให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงของประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ให้มีความเข้มแข็ง ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตร สร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น ซึ่งดำเนินงานโดยพันธมิตรเครือข่าย ได้แก่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat : MRCS) และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)
โอกาสนี้ ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว., ดร.อนุรักษ์ กิตติคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MRCS , ดร.วินัย วังพิมูล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สทนช. พร้อมด้วยกลุ่มเป้าหมายโครงการฯ เข้าร่วมการประชุม ณ อาคาร 60 ปี ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประยุกต์สู่ SMEs วว. เทคโนธานี
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 6 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนลุ่มน้ำโขง พัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างความแตกต่างและการเข้าถึงช่องทางส่งเสริมการขายในตลาดระดับประเทศ ภูมิภาค และทั่วโลก ประกอบด้วยกิจกรรมถ่ายทอดความรู้จากวิทยากรที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมสำหรับภูมิภาคแม่น้ำโขง พร้อมทั้งกิจกรรม workshop และการศึกษาดูงานโครงสร้างพื้นฐาน วว. และการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน/เกษตรกร ณ จังหวัดปทุมธานี ซึ่ง วว. เข้าไปส่งเสริมสนับสนุนได้สำเร็จเป็นรูปธรรม อาทิ
1. การใช้ประโยชน์จากสาหร่ายทะเลในการเกษตร อาหารและเครื่องสำอาง
2. การใช้สารชีวภาพในการผลิตข้าวและฟาง การเพาะเห็ด โรคและการจัดการศัตรูพืช
3. การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าและเพิ่มผลิตภัณฑ์
4. แนวทางการพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่า
5. การแปรรูปอาหารจากทรัพยากรลุ่มน้ำโขง
6. การเขียนแผนธุรกิจด้วยกลยุทธ์การดำเนินการ
7. นวัตกรรมการผลิตกล้วยหอมเพื่อลดความเสียหายจากพายุและการประยุกต์ใช้ตัวควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
8. การจัดการทรัพยากรน้ำด้วยการปลูกกล้วยหอมทองใหญ่
9. การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อสร้างคุณค่าและผลิตภัณฑ์การอัพเกรด เป็นต้น