อว. มอบของขวัญปีใหม่ ปี 67 “เท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace)” จาก ฝีมือนักวิจัยไทย ให้กับ รพ. ทั้ง 7 แห่ง ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการให้ได้ใช้ฟรี
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล จัดพิธีส่งมอบนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) คุณภาพสูง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ ให้กับ โรงพยาบาล ทั้ง 7 แห่ง ภายใต้โครงการของขวัญปีใหม่ 2567 จาก กระทรวง อว. ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัย จาก วช.
โดย นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวเปิดงานและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
ซึ่งมี รศ.ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ พร้อมด้วยตัวแทนผู้รับมอบนวัตกรรมเท้าเทียม ทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร โรงพยาบาลสิรินธร ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ โรงพยาบาลนครปฐม โรงพยาบาลสมุทรสาคร สถาบันราชประชาสมาสัย สมุทรปราการ และ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี ซึ่งมีตัวแทนผู้พิการขึ้นรับมอบนวัตกรรมเท้าเทียม ณ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า กระทรวง อว. ในนามของรัฐบาล มอบของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้กับประชาชน ซึ่งเป็นผลงานนวัตกรรมของภาครัฐ
ในการให้โอกาสประชาชนทั้งกลุ่มที่ต้องการเป็นพิเศษและกลุ่มประชาชนทั่วไป กระทรวง อว. มุ่งเน้นผลิตกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมต่าง ๆ โดยเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง มีคุณภาพ น้ำหนักเบา รูปลักษณ์สวยงาม โดยเกิดจากความเก่งของคนไทยแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในประเทศไทยที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ กระทรวง อว. มีความยินดีที่จะมอบเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) ให้กับผู้ต้องการได้มีโอกาสได้ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และหวังเป็นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) จะเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดให้เข้าถึงประชาชนในทุกกลุ่มได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ด้วยฐานทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์คิดค้นและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เป็นองค์ความรู้ที่เสริมศักยภาพในด้านคุณภาพชีวิต โดย วช. ได้ให้การสนับสนุนแก่ ผศ.ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ และคณะ แห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในการดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการขาขาด
ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าเท้าเทียมจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูง เพื่อช่วยเพิ่มความสุขให้กับผู้พิการ โดยจะมีการติดตามประเมินการใช้งาน เพื่อนำข้อมูลสนับสนุนการขอเข้าระบบของ สปสช. ต่อไป
รศ.ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวถึง เท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) ได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2566 และได้ผ่านการทดสอบตามมาตรการสากล ISO 10328 จากประเทศเยอรมนี และทำการทดลองทางด้านทางด้านคลินิกโดยโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นวัสดุอุปกรณ์นวัตกรรมที่มีคุณภาพ พัฒนาโดยฝีมือนักวิจัยของไทยมุ่งหวังให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงได้และจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วช. ได้กำหนดการส่งมอบนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) ทั่วทุกภูมิภาค และได้ติดตามประเมินผลการใช้งาน เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผน และการผลักดันเข้าสู่ระบบสุขภาพจะเห็นได้ว่าการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) มุ่งหวังให้ผู้พิการเข้าถึงและนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐานยกระดับความเป็นอยู่ของผู้พิการให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ