สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตรในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2566 (TRIUP FAIR 2023) ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2566 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระดมผลงาน นักวิจัย ผู้ประกอบการ สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญกว่า 60 หน่วยงานตั้งเป้าหมายการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคเอกชนและการเติบโตทางเศรษฐกิจจากงานวิจัยและนวัตกรรม
ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) กล่าวว่า จากสถานการณ์และความเคลื่อนไหวที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเล็งเห็นว่าทุกภาคส่วนของไทยต้องให้ความสำคัญกับการนำวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศมากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 (TRIUP Act) ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นหนึ่งในกฎหมายเพื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ที่ช่วยปลดล็อกความเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรม เร่งส่งเสริมการใช้นวัตกรรมของประเทศ
รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า การนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ให้เกิดผลกระทบสูงต่อประเทศนั้น ต้องอาศัยพลังและความร่วมมือจากภาคีทุกภาคส่วน โดยปีนี้จะเริ่มจากภาคเศรษฐกิจ ดังนั้น สกสว. พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัย (PMU) มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย ภาคเอกชนนำโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลกลไกหนุนเสริมการพัฒนาภาคธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาคการเงิน การลงทุน จึงได้ร่วมกันจัดงาน “มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2566 (TRIUP FAIR 2023)” ภายใต้แนวคิด “Journey to Impact : เส้นทางจากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ” โดยมีจุดมุ่งเน้นสำคัญ คือ การเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันวางเป้าหมายผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้ไปสู่การสร้างประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม ภายใต้ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแพทย์และสุขภาพ เกษตรและอาหารมูลค่าสูง และ Net Zero Emission โดยมีเป้าหมายการทำงานร่วมกันเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อเป็นเส้นทางไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่สามารถสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมนั้น จะต้องมีกระบวนการ และมีหน่วยงานที่ต้องเข้ามาหนุนเสริมในแต่ละขั้นตอนอย่างไร และภาพการทำงานใน 3 ประเด็นหลักนี้จะนำไปสู่การขยายโมเดลการทำงานในประเด็นสำคัญอื่น ๆ ของประเทศต่อไป
ด้าน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. มองว่างาน TRIUP Fair 2023 จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการและภาคเอกชนได้พบกับผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง มากกว่า 300 ผลงาน โดยมีผู้ประกอบการจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้ความสนใจและมาร่วมแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมกว่า 70 บริษัท ซึ่งเชื่อว่าการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการยกระดับศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมไทยจากการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัยภายในงาน
“นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังเป็นภาคเอกชนรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวน 1 พันล้านบาทจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ของ สกสว. ในการดำเนินโครงการ ‘กองทุนอินโนเวชั่นวัน’ ภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และมีฝีมือด้านเทคโนโลยีให้เติบโตได้ภายในประเทศ และสามารถก้าวไปแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ได้ โดยจะเชื่อมต่อธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมเข้ากับ SMEs ภาคอุตสาหกรรมในเครือข่ายสมาชิกของเราที่ต้องการนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับนโยบาย ONE FTI ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในวาระปี 2565 - 2567 นี้” ประธาน ส.อ.ท. กล่าวเพิ่มเติม
นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ รองประธานคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมและวิจัย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการจัดงาน TRIUP Fair 2023 ครั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภายใต้นโยบาย 'Connect the Dots' ได้มีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ (Young Entrepreneur chamber of commerce; YEC) และ ผู้ประกอบการในเครือข่ายเพื่อเข้าร่วมงานและเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ (Business matching) โดยมองว่าผลงานวิจัยและนวัตกรรมจะช่วยสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตด้านนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการได้จริง
“งาน TRIUP FAIR 2023 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2566 นั้น มีกิจกรรมไฮไลท์สำคัญ อาทิ การจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมของนักวิจัยและผู้ประกอบการไทยกว่า 300 ผลงานที่พร้อมจะต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ และจะช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจพร้อมเปิดพื้นที่การทำ Business Matching ให้แก่ผู้ที่สนใจ การจัดให้มีเวทีเสวนา และการอบรมเชิงปฏิบัติการที่เหมาะกับนักวิจัยและผู้ประกอบการโดยมีวิทยากรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยน กิจกรรม Pitching การจับคู่ธุรกิจ การให้คำปรึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ กว่า 60 หน่วยงาน อาทิ เรื่องทุนวิจัย การจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ต่าง ๆ การรับรองมาตรฐานสินค้านวัตกรรม การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ บัญชีนวัตกรรม มาตรการภาษี 200% รวมถึงกลไกด้านการตลาดทั้งในและต่างประเทศ และรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ด้านการเงิน การลงทุนเพื่อผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม และผู้สนใจที่ต้องการผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรม Audition คัดเลือกผู้เข้าร่วมรายการ Shark Tank Thailand รวมถึงการจำหน่ายสินค้านวัตกรรมเพื่อกระตุ้นการใช้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมของไทย เป็นต้น “สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นกลไกที่ช่วยให้ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สามารถเข้าถึงผลงานวิจัยและนวัตกรรม และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ และสร้างความแตกต่างในการแข่งขันได้จริง อีกทั้งจะทำให้สังคมเห็นว่าทุกภาคส่วนของไทยพร้อมแล้วที่จะพาประเทศไทยไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม” ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าว