NSM ตั้งเป้าไทยเป็น “เมืองหลวงของการออบแบบของเล่นวิทยาศาสตร์” เตรียมเปิดเวทีประกวดต่อยอดสู่การสร้างอาชีพ ปูทางสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ NSM เปิดเผยว่า NSM ให้ความสำคัญกับของเล่นวิทยาศาสตร์ เพราะสามารถสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ให้กับคนในทุกช่วงวัย ถือเป็นสื่อหรือเครื่องมือที่จะช่วยในเรื่องการเรียนการสอน ช่วยสร้างความสนใจในวิทยาศาสตร์ ที่สำคัญตนมองว่าของเล่นวิทยาศาสตร์สามารถจะนำไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตของเล่นวิทยาศาสตร์ในระดับประเทศและในระดับโลกได้ เพราะปัจจุบันของเล่นวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีหน่วยงานเจ้าภาพที่จะมาดูแลอย่างจริงจัง อย่างในต่างประเทศ เช่น จีนหรือประเทศทางตะวันตก ของเล่นวิทยาศาสตร์หรือ STEM Toy เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจมาก เพราะไม่ได้สนุกสนานเพลิดเพลินเฉพาะกับเด็กเล็ก ทุกวันนี้มีของเล่นวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กโตและเด็กมหาวิทยาลัย แนวโน้มของเล่นจะไปในทิศทางของ STEM Toy และ Science Toy มากขึ้น ถ้ามองในแง่ของโอกาสในการขยายตัวสู่อุตสาหกรรม ถือว่ายังมีโอกาสอีกมาก เพราะกลุ่มลูกค้ากว้างมาก ดังนั้น ตนจึงคิดว่ามันเป็นโอกาสมากสำหรับอุตสาหกรรมของเล่นวิทยาศาสตร์ไทย
ผอ. NSM กล่าวต่อว่า NSM ได้รับทุนวิจัยในการพัฒนาของเล่นวิทยาศาสตร์เพื่อจะต่อยอดไปสู่อาชีพให้ได้ ปัจจุบันนี้ NSM มีหลักสูตรฝึกอบรมการพัฒนาของเล่นวิทยาศาสตร์หลากหลายหลักสูตร รวมถึงของเล่นภูมิปัญญาไทยเราก็เอากลไกทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ใส่ลงไป เพื่อให้รู้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิปัญญา มีนวัตกรรม มีวิทยาศาสตร์มายาวนาน ซึ่งแสดงออกมาจากของเล่นเหล่านี้ ล่าสุดได้อบรมไป 2 รุ่นแล้ว รับการตอบรับที่ดี ไม่ได้มีมาอบรมเฉพาะบุคคลแต่มากันแบบครอบครัวก็มาก ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะของเล่นวิทยาศาสตร์นอกจากจะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังเป็นเครื่องมือในการเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัว
“ที่สำคัญ NSM มีแนวคิดที่จะทำเวทีประกวดของเล่นวิทยาศาสตร์ แต่จะต้องเป็นในรูปแบบใหม่ โดยผู้ที่ชนะจะได้ใบสั่งจ้างไปเลย ซึ่งแปลว่าใครก็ตามที่ชนะการประกวดต้องกลับไปพัฒนาชิ้นงานให้ดีขึ้น โดยมี NSM เป็นพี่เลี้ยง จนสามารถผลิตออกมาได้แล้วเอาขายให้เรา คือ NSM จะทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อและเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ด้วย โดยไม่จำเป็นที่จะต้องขายเฉพาะเรา แต่เขาสามารถนำไปขายที่อื่นได้ด้วย รางวัลแบบนี้จะยั่งยืนกว่าเพราะสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ไม่ใช่แค่ได้เงินได้ถ้วยรางวัลไปเท่านั้น ที่สำคัญ เราจะยกระดับเป็นการประกวดของเล่นในระดับนานาชาติ โดยจะเริ่มที่กลุ่มประเทศอาเซียนก่อน” ผศ.ดร.รวิน กล่าวและว่า ของเล่นวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ และมีศักยภาพมากในการที่จะนำประเทศไทยไปสู่การเป็น “เมืองหลวงของการออบแบบของเล่นวิทยาศาสตร์” นอกจากนั้น ตนอยากเห็นของเล่นเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันของคนในครอบครัว ได้แบ่งปัน สนุกและเรียนรู้ไปพร้อมกัน สร้างทรงจำ ความประทับใจ มีเรื่องราว สำคัญที่สุดคือการเอามาต่อยอดสร้างเป็นอาชีพได้