กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) NSM และ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำทีมเยาวชนไทยสร้างชื่อในเวทีโลกคว้าชัยจากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมสำหรับเยาวชน ระดับโลก REGENERON ISEF 2023 ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดโดย Society for Science & the Public ระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566 โดยในปีนี้มีนักเรียนกว่า 1,600 คน จาก 63 ประเทศจากทั่วโลก และมลรัฐต่างๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง กระทรวง อว. ได้ส่งเยาวชนเข้าร่วมทั้งหมด 14 ทีม มาจาก 2 เวที ได้แก่ ค่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2566 (Thai Young Scientist Festival, TYSF 2023) ภายใต้การสนับสนุนโดย NSM และสมาคมวิทยาศาสตร์ฯ และการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 25 (Young Scientist Competition, YSC 2023) โดย สวทช. และมหาวิทยาลัยพันธมิตร ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณโดย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ในการประกวดในครั้ง ทีมเยาวชนไทยจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กรุงเทพฯสมาชิกทีมประกอบด้วย นายปูรณ์ ตระกูลตั้งมั่น นายทีปกร แก้วอำดี และ นายปัณณธร ศิริ และมี นายชนันท์ เกียรติสิริสาสน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา สามารถคว้ารางวัลใหญ่ที่สุดของการประกวด คือ “รางวัลสุดยอดนักวิทยาสตร์รุ่นเยาว์”Regeneron Young Scientist Awards สนับสนุนโดย Regeneron and Society for Science ซึ่งถือเป็นรางวัลโครงงานนวัตกรรมการวิจัยที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างจริงจังของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ในการหาคำตอบเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายของโลกในอนาคต โดยใช้แนวที่สร้างสรรค์และแตกต่าง พร้อมทั้งได้รับเงินรางวัล $50,000 (มูลค่ามากกว่า 1.7 ล้านบาท)
พร้อมคว้า รางวัล Grand Awards อันดับ 1 สาขาสัตวศาสตร์ พร้อมเงินรางวัล $5000 (มูลค่ามากกว่า 170,000 บาท) กับ โครงงาน “การเพิ่มอัตราการรอดของแมลงช้างปีกใส (Mallada basalis) จากพฤติกรรมการฟักและการเลือกกินอาหาร (Innovation for Optimizing Lacewing Survivability)” โดยการศึกษานี้สืบเนื่องมาจากแมลงช้างปีกใสเป็นแมลงตัวห้ำที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรูพืชสูง แต่ปัญหาสำคัญที่ประสบคืออัตราการรอดต่ำอันเกิดจากอัตราการฟักไข่ต่ำและพฤติกรรมการกินเอง จึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการฟักไข่และพฤติกรรมการเลือกกินอาหารเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมการฟักไข่แมลงช้างปีกใสซึ่งสามารถเพิ่มอัตราการรอดของแมลงช้างปีกใสได้ถึง 5.8 เท่า โดยตัวแทนทีมอธิบายถึงเบื้องหลังโครงงานฯ ดังกล่าวว่า “การพัฒนาโครงงานเมลงช้างปีกใสนี้ ต้องขอขอบคุณเกษตรกรในไร่มันสำปะหลังที่ได้ให้การตอบรับอย่างดียิ่งในการควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธีผ่านการใช้บรรจุภัณฑ์การเพิ่มอัตรารอดของแมลงช้างปีกใสของพวกผม นอกจากนี้พวกผมมีความยินดียิ่งที่ได้ช่วยเหลือผู้ผลิตใบไม้อัดในการทำบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และลดโอกาสการเกิดไฟป่าด้วยการนำเชื้อเพลิงที่เป็นเศษใบไม้มาสร้างบรรจุภัณฑ์ที่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ที่สำคัญขอขอบพระคุณอาจารย์ รวมถึงบุคลากรของสมาคมวิทย์ฯ และ NSM เป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบโอกาสสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้” ซึ่งโครงงานนี้ได้รับคัดเลือกจากการประกวดในเวทีค่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2565 (Thai Young Scientist Festival (TYSF)) ครั้งที่ 18
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่อง สร้างขุมกำลังด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างขุมกำลังในด้านทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้มีความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่งเสริมและกระตุ้นให้เยาวชนหันมาสนใจและเพิ่มพูนทักษะทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ในระดับนักเรียน เพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามนโยบายของกระทรวง อว. โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ผ่านการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Young Scientist Competition, YSC) ที่ สวทช. สนับสนุนตั้งแต่ปี 2542 โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 6 มหาวิทยาลัยเครือข่ายที่ร่วมเป็นศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการฯ จัดประกวดโครงงานในสาขาวิชาต่าง ๆ ทั่วประเทศรวม 9 สาขา ให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 – 6 ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นนวัตกรรม ให้สังคมไทยเป็นสังคมฐานความรู้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
“การเข้าร่วมประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติ หรือ Regeneron ISEF 2023 ถือเป็นเวทีที่มีความสำคัญด้านการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และเป็นอีกหนึ่งเวทีการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้และสนุกไปกับการทำกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน ซึ่งเด็กและเยาวชนของชาติเป็นบุคคลที่มีบทบาทและส่วนสำคัญอย่างยิ่ง การสร้างนักวิจัยรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรากฐานและกำลังสำคัญในการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการส่งเสริมให้เยาวชนมีประสบการณ์จากการแข่งขันบนเวทีโลกจะเป็นกุญแจสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนของประเทศ” .... ผู้อำนวยการ กล่าว