xs
xsm
sm
md
lg

GISTDA เผย มาตรการห้ามเผาเด็ดขาด ช่วยให้จุดความร้อนไทยลดลงกว่าครึ่ง พบสูงสุดยังคงพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบจุดความร้อน ลดลงจากเดิมเหลือเพียง 461 จุด คาดว่าเป็นผลมาจากมาตรการห้ามเผาเด็ดขาดใน 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยส่วนใหญ่ได้ประกาศไว้เป็นช่วงระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังคงครองอันดับหนึ่งอยู่ที่ 3,768 จุด (มากกว่าวานก่อน), กัมพูชา 1,879 จุด , สปป.ลาว 432 จุด, เวียดนาม 135 จุด และมาเลเซีย 23 จุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่สูงสุดยังคงพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 176 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 140 จุด พื้นที่เกษตร 57 จุด พื้นที่เขต สปก. 45 จุด ชุมชนและอื่นๆ 40 จุด และริมทางหลวง 3 จุด จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 48 จุด , น่าน 46 จุด และ ชัยภูมิ 45 จุด ตามลำดับ จากภาพแสดงให้เห็นว่า จุดความร้อนลดลงอย่างมาก


คุณภาพอากาศภาคเหนือวันนี้ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากมาตรการห้ามเผา ประกอบกับบางพื้นที่มีฝนตกลงมาทำให้เกิดการชะล้างฝุ่นละออง PM 2.5 ลงไปได้บ้าง ซึ่งเมื่อดูจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ก็สอดคล้องกันกับลักษณะอากาศดังกล่าว โดยวันนี้ค่าคุณภาพอากาศ (เฉพาะ PM2.5) อยู่ในระดับดี แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา

ทั้งนี้ สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่


สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม :  https://fire.gistda.or.th


กำลังโหลดความคิดเห็น