“ฝนดาวตกลีโอนิดส์” หรือ “ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต” เป็นหนึ่งในฝนดาวตกที่มีชื่อเสียงมากและเป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างมากที่สุด ที่เหล่านักชมดวงดาวต่างเฝ้ารอชมความสวยงามจากฝากฟ้ายามค่ำคืนนี้ โดยเป็นฝนดาวตกที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี สำหรับปีนี้จะสังเกตได้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 17 พฤศจิกายน ไปจนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณใกล้ กลุ่มดาวสิงโต อัตราการตกสูงสุดเฉลี่ย 10-15 ดวงต่อชั่วโมง
ฝนดาวตกลีโอนิดส์ เกิดจากสายธารเศษฝุ่นของ ดาวหาง 55พี เทมเพล-ทัตเทิล (55P Tempel-Tuttle) ซึ่งมีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 33 ปี ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวหางตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวหางเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า ทิศทางวงโคจรของฝนดาวตกลีโอนิดส์สวนทางกับทิศทางวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ความเร็วของเม็ดฝุ่นที่เข้ามาเสียดสีกับบรรยากาศโลกมีความเร็วค่อนข้างมาก ด้วยความเร็วสูงถึง 71 กิโลเมตรต่อวินาที ฝนดาวตกลีโอนิดส์ เป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างมากที่สุด จึงได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งฝนดาวตก”
ในเรื่องของความเชื่อ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในเมืองนีเมียประเทศกรีซ มีสิงโตวิเศษตัวหนึ่งที่มีขนสีทองอร่าม ไม่ว่าอาวุธอะไรก็ไม่อาจทำอันตรายอะไรมันได้ กรงเล็บของมันแหลมคมกว่าดาบ สามารถตัดเกราะหรือโล่ได้ทุกชนิด อยู่มาวันหนึ่งสิงโตตัวนี้ได้ออกไปจับตัวหญิงสาวชาวเมืองมาไว้ในถ้ำเพื่อล่อให้คนมาช่วยและจะได้จับกินเป็นอาหาร และด้วยเหตุนี้เอง เฮราคลีส (Heracles) บุตรแห่งเทพเจ้าซูส (Zeus) จึงได้รับมอบหมายให้มาสังหารสิงโตตัวนี้ แต่ด้วยความร้ายกาจของสิงโต เทพเจ้าซูสจึงนำวิญญาณของมันไปอยู่บนท้องฟ้า เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงเรื่องนี้
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ NARIT