“เอนก” เข้าพบ “สมเด็จฮุนเซน” เปิดความสัมพันธ์ด้านการอุดมศึกษาและวิจัย ย้ำ “ไทยเป็นผู้นำทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของภูมิภาค” ขอบคุณที่ให้ทุนเรียนโท-เอก และสนับสนุนการวิจัย เผยนายกฯ กัมพูชาเสียใจต่อเหตุสะเทือนขวัญที่หนองบัวลำภู
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ศ.(พิเศษ) ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ วิมานสันติภาพ ทำเนียบรัฐบาล กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยเมื่อเริ่มการประชุมสมเด็จฮุนเซนได้แสดงความเสียใจอย่างที่สุดต่อประเทศไทยในนามของรัฐบาลและประชาชนกัมพูชาในเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่จังหวัดหนองบัวลำภู
จากนั้น ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า ได้นำทีมผู้บริหารของกระทรวง อว. ทั้งมหาวิทยาลัยและหน่วยงานทางด้านการวิจัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เต็มคณะ มาหารือกับกระทรวงต่างๆ ของกัมพูชา เพื่อขยายและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ใน 3 ด้านสำคัญ คือ 1. รัฐบาลไทยโดย อว. ได้มอบทุนการศึกษาแก่นิสิตกัมพูชา ในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ของไทย เพื่อเป็นการพัฒนาการศึกษาและการพัฒนากำลังคนร่วมระหว่างสองประเทศในสาขาที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศกัมพูชา 2.อนุญาตให้นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ของกัมพูชาไปเข้าร่วมการศึกษา การวิจัยในหลายๆ ด้าน รวมทั้งด้านดาราศาสตร์ ไอที ชีววิทยาศาสตร์ อาหาร และด้านอื่นๆ กับหน่วยงานวิจัยหลักของประเทศไทย และ 3.ความร่วมมือด้านการพัฒนากำลังคนด้านการแพทย์สาธารณสุข โดยเฉพาะการฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางในคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในความดูแลของ อว. นอกจากนี้ ยังยินดีให้คณะนักวิชาการของกัมพูชาเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศไทยเพื่อขยายและกระชับความร่วมมือด้วยกันระหว่างกัมพูชา-ไทย โดยเฉพาะด้านการศึกษา วิจัยและนวัตกรรมทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และด้านต่างๆ
ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซน ได้ขอบคุณ รมว.อว. ที่ได้นำความปรารถนาดีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยมายังสมเด็จฮุนเซนและประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะขอบคุณสำหรับการมอบทุนการศึกษาด้านการศึกษา วิจัย ในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการแพทย์และสาธารณสุขอีกด้วย
“สมเด็จฮุนเซน ได้ย้ำว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากและเป็นผู้นำในภูมิภาคทางด้านการวิจัย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สามารถที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนากัมพูชาได้อย่างมาก ซึ่งสาขาที่ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งนั้นตรงกับความต้องการในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศกัมพูชา โดยกัมพูชาต้องการให้นิสิตนักศึกษาไปศึกษาในสาขาเหล่านี้ในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก รวมทั้งการวิจัยในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซนได้สั่งการให้สถาบันที่เกี่ยวข้องของกัมพูชาหารือกับ อว. เพื่อผลักดันความร่วมมือให้ดีและลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะให้กระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เริ่มเดินทางไปศึกษาดูงานในประเทศไทย” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
ทั้งนี้ การเยือนกัมพูชาของ รมว.อว. และคณะในครั้งนี้ ได้เข้าพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการของกัมพูชา 5 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม, กระทรวงแรงงานและการอาชีวศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงข้อมูลและสารสนเทศ และกระทรวงธรรมการและศาสนา จนนำไปสู่ความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างสองประเทศ