องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ NASA ได้เผยแพร่ภาพที่คมชัดที่สุดในรอบ 20 ปี ของ “ดวงจันทร์ยูโรปา” 1 ใน 4 ดวงจันทร์ของของดาวพฤหัสบดี ที่ถูกค้นพบโดย กาลิเลโอ กาลิเลอี ในปี พ.ศ. 2152 ที่ถ่ายด้วยกล้องจากยานอวกาศจูโน (Juno) ได้โคจรเข้าใกล้ดวงจันทร์ยูโรปาในระยะห่าง 352 กิโลเมตร จากพื้นผิวดาวและนับว่าเป็นยานอวกาศลำแรกที่โคจรเข้าใกล้พื้นผิวดาวมากที่สุด และสามารถถ่ายภาพความคมชัดสูงจากพื้นผิวในระดับความสูง 1,500 กิโลเมตร
ภาพถ่ายจากยานอวกาศจูโนที่ถูกส่งกลับมายังโลกแสดงให้เห็นรอยแตกของแผ่นน้ำแข็งบนดวงจันทร์ยูโรปาที่มีความคมชัดสูงสามารถช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำการศึกษารอยแตกของแผ่นน้ำแข็ง ลักษณะของสีสันและแร่ธาตุเพื่อทำความเข้าใจมหาสมุทรที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าภายใต้ลักษณะของเหลวใต้พื้นผิวดาวอาจเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตต่างดาว
ดวงจันทร์ดวงนี้เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการค้นหาสิ่งมีชีวิตต่างดาว เนื่องจากข้อมูลจากภาพถ่ายและยานสำรวจยืนยันว่ามีชั้นบรรยากาศบางๆ ของออกซิเจนบนพื้นผิวส่วนใหญ่ที่มีลักษณะเป็นน้ำแข็ง นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าใต้แผ่นน้ำแข็งอาจมีลักษณะของมหาสมุทรขนาดใหญ่ และนักวิทยาศาสตร์ยังคาดการว่าภายใต้ลักษณะของเหลวใต้พื้นผิวดาวอาจเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตต่างดาว
สำหรับยานอวกาศจูโนนั้นได้ออกเดินทางจากโลกไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยใช้จรวดขนส่งและเดินทางถึงดาวพฤหัสบดีในปี 2559 เพื่อทำภารกิจสำรวจดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะห์ดวงใหญ่ที่สุดของระบบสุริยะจักรวาล
และดวงจันทร์ยูโรปานั้น เป็นหนึ่งในดาวบริวารดวงหนึ่งของดาวพฤหัสบดี และเป็น 1 ใน 4 ดวงจันทร์ ที่ได้ถูกค้นพบโดย กาลิเลโอ กาลิเลอี ในปี พ.ศ. 2152 อีกสามดวงได้แก่ ไอโอ แกนีมีด และ คาลลิสโต ดวงจันทร์ดวงนี้ยังเป็นดาวบริวารที่ใหญ่ที่สุด มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3,000 กิโลเมตร มีบรรยากาศที่เบาบางประกอบไปด้วยออกซิเจนเป็นส่วนใหญ่ พื้นผิวที่เป็นน้ำแข็งและมีความเรียบมากนี้ประกอบไปด้วยรอยแตกและเส้นริ้วบางๆ โดยมีหลุมอุกกาบาตอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พื้นผิวที่เรียบและดูใหม่นี้เองที่ทำให้เกิดสมมติฐานว่า มีมหาสมุทรอยู่ข้างใต้ซึ่งสามารถเป็นแหล่งที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : NASA / Wikipedia / TNN Tech