ปัจจุบันมีผู้คนหันมาให้ความสนใจในการดื่มกาแฟกันมากขึ้น เห็นได้จากบรรดาร้านคาเฟ่ต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ทำให้มีปริมาณกากกาแฟที่เหลือทิ้งเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีงานวิจัยที่ได้นำกากกาแฟเหลือทิ้งเหล่านี้ มาต่อยอดเป็นพลาสติกย่อยสลายเองได้ตามธรรมชาติ ในชื่อแบรนด์ “NU Bio Bags” จนได้กลายเป็นบรรจุภัณฑ์ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อม และสามารถลดขยะให้กับโลกได้มากขึ้นอีกด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรารัตน์ มหาศรานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ดูแลงานวิจัย “NU Bio Bags” พลาสติกที่ย่อยสลายได้จากากกาแฟ ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจว่า ในอุสาหกรรมการเกษตรในขั้นตอนการเตรียมกล้าไม้ ปัจจุบันได้การใช้ถุงดำเพื่อปลูกกล้าไม้ในปริมาณที่สูง เมื่อนำต้นไม้ลงดินเพื่อปลูกแล้ว ถึงดำเหล่านี้ก็จะกลายเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์ หากกำจัดไม่ถูกวิธีก็จะสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมได้มาก จึงได้ทำการทดลองนำ “กากกาแฟ" มาทำการวิจัยให้ได้เป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ เพื่อเป็นพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จาก “กากกาแฟ” เหลือทิ้งในร้านคาเฟ่ พัฒนากลายเป็น “พลาสติกย่อยสลาย” ได้
ในช่วงแรกกากกาแฟที่ได้มานั้น มาจากร้านคาเฟ่ต่างๆ ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งจัดได้ว่าเป็นขยะเหลือทิ้ง ทางโครงการจึงได้นำกากกาแฟ มาแปลรูปเป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ โดยใช้ขั้นตอนการนำกากกาแฟ มาผสมกับ “พอลิแลคติกแอชิด” ซึ่งสารนี้ก็มาจากกระบวนการหมักแป้งและน้ำตาล หลังจากการผสมแล้วก็จะนำมาขึ้นรูปด้วยกระบวนการเป่าฟิล์มด้วยเครื่องเป่าฟิล์ม (blow film extruder) จนเป็นฟิล์มบาง และกลายเป็นพลาสติกย่อยสลายได้ และทางโครงการได้ตั้งชื่อแบรนด์ว่า “NU Bio Bags” ซึ่งพลาสติกที่ได้มานี้ เป็นพลาสติกที่ใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติปราศจากการใช้สารเคมี และสามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ 100% ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน
“ในช่วงแรกทาง NU Bio Bags ได้นำพลาสติกที่ได้ มาผลิตเป็นถุงสำหรับเพาะกล้าไม้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานำไปปลูก ก็สามารถวางในหลุมที่เตรียมไว้ได้เลย ไม่ใช้วิธีเดิมๆ แกะกลาสติกออกแล้วค่อยปลูก วิธีนี้จึงสามารถช่วยลดขยะพลาสติกในภาคอุตสาหกรรมด้านการเกษตรได้เป็นอย่างมาก นอกนากนี้ยังช่วยให้สุขภาพของเกษตรนั้นดีขึ้น เนื่องจาก ในถุงดำจะมีสารประเภทพลาสติไซเซอร์ ที่ทำให้พลาสติกยืดหยุ่นดีขึ้น ซึ่งสารประเภทนี้จัดเป็นสารก่อมะเร็ง หากไม่มีการกำจัดที่ถูกวิธีแล้วก็จะสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของเกษตรกร” ..... ดร.ศรารัตน์ กล่าวเสริม
ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ผู้ประกอบการหัวใจสีเขียว
พลาสติกย่อยสลายได้จากากกาแฟ นอกจากจะนำไปผลิตเป็นถุงเพาะกล้าไม้แล้ว ก็ยังได้มีการนำไปต่อยอดเป็นบรรจุภัณฑ์อื่นๆ อีก ซองใส่อาหาร หรือใส่อุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากสีธรรมชาติของพลาสติกคือสีชา สามารถช่วยในเรื่องการกรองแสงได้ การนำมาใส่ สินค้าทางการเกษตร เช่น ชา ผลไม้อบแห้ง เมล็ดพืช ก็ตอบโจทย์การรักษาคุณภาพได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการนำไปใส่อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทางโครงการได้ร่วมมือกับทางโรงแรมที่มีนโยบายลดขยะ ในการนำไปใส่อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ของทางโรงแล้ว แทนการใช้พลาสติกธรรมดาทั่วไป ก็สามารถช่วยลดปัญหาในเรื่องขยะพลาสติกให้กับทางโรงแรมได้เป็นอย่างมาก
“NU Bio Bags” พลาสติกย่อยสลาย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีใจรักษ์โลก และนอกจากจะช่วยลดขยะพลาสติกให้กับสิ่งแวดล้อมแล้ว และเนื่องจากผลิตจากกากกาแฟซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำ จึงสามารถลดต้นทุนของได้อีกด้วย นับได้ว่าเป็นพลาสติกย่อยสลายได้ ที่ต่อยอดจากขยะเหลือทิ้ง ได้คุ้มค่ามากๆ
