ผมสะดุ้งตื่นด้วยอาการวาบเย็นบริเวณหลัง กระแสลมเย็นแรงกำลังพัดผ่านเปลซึ่งกำลังยวบย้วยด้วยน้ำหนักตัวคนนอนจนเกือบติดพื้นไม้ของอาคารสำนักงานหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยน้ำเขียว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ผมคว้านาฬิกาข้อมือขึ้นมาเพื่อตรวจสอบอุณหภูมิ "นี่มันฤดูไหนกันเนี่ย?" ผมอุทานหลังจากหน้าปัดแสดงอุณหภูมิโดยรอบที่ยี่สิบสององศาเซลเซียส ณ เวลาประมาณบ่ายสามโมง
"มิน่า ยะเยือกเชียว" ผมบอกกับตัวเองพร้อมกับอาการขนแขนตั้งลุกเมื่อถูกลมเย็นโลมเลียอีกครั้ง
หัวหน้าโครงการและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าในคณะสำรวจความหลากหลายของกล้วยไม้หายไปกันหมดแล้วเมื่อผมลุกขึ้นมองออกไปโดยรอบ "หลับจนโดนทิ้ง" ผมคิด ก่อนที่จะนำพาร่างกายกลับเข้าไปในเปลพร้อมหมอนและผ้าห่มขนาดย่อมเพื่อการพักผ่อนระยะยาวเนื่องจากคิดแล้วว่าการเดิมตามไปจะทำให้การพักผ่อนอันไม่ค่อยได้ประสบพบเจอลดน้อยลง เสียง "วิ๊ด วิ่ดด" ก้องใสพร้อมเสียงสั่นลูกคอลากยาวเกินกว่ามนุษย์เช่นผมจะเลียนแบบได้ดึงดูดความสนใจผมก่อนโดนเครื่องนอนหลากชิ้นสูบสติหายไปกับนิทรา เมื่อศีรษะโผล่พ้นขอบเปลสายตาก็ปะทะเข้ากับสิ่งมีชีวิตต้นเสียง
นกปรอดหัวโขนหรือหลายคนจะรู้จักในชื่อนกกรงหัวจุก ตัวหนึ่งเกาะอยู่บนสายไฟไม่ห่างไปนัก นกตัวนั้นคาบอะไรบางอย่างสีแดงซึ่งน่าจะเป็นแมลงซักชนิดหนึ่งด้วยจะงอยปาก มันหันมองไปทางนั้นทีทางโน้นทีอยู่พักใหญ่ดูคล้ายระวังตัว ก่อนจะบินโฉบผ่านชานระเบียงเฉี่ยวเปลแล้วพลุบหายเข้าไปในพุ่มใบไม้ประดับใกล้ ตัวอาคาร ไม่ทันไรเสียงนกปรอดหัวโขนอีกตัวซึ่งเกาะอยู่บนสายไฟเส้นเดียวกันแต่ห่างออกไปก็ดังขึ้นมา แน่นอนว่าจะงอยปากของมันกำลังคาบแมลงอยู่ ไม่ทันจะได้ตั้งข้อสงสัย มันก็พลุบหายเข้าไปในตำแหน่งเดียวกันกับนกปรอดหัวโขนตัวก่อนหน้า
"ทำรังเลี้ยงลูกแน่ ๆ" ผมคิดในใจก่อนลุกจากเปลไปคว้าเอากล้องถ่ายรูปดิจิตอล เลนส์ทางยาวโฟกัสสูง และขาตั้งกล้องประกอบเข้าด้วยกัน น่าเสียดายว่านกปรอดหัวโขนทั้งสองตัวบินออกจากพุ่มไม้ไปแล้วเมื่อผมวางกล้องในตำแหน่งที่ต้องการ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวพวกมันต้องมาใหม่ในเวลาไม่ช้าเพราะต้องป้อนอาหารลูกนก ซึ่งน่าจะฟักออกจากไข่แล้วจากการที่เห็นนกทั้งคู่บินคาบอาหารมา ผมให้กำลังใจตัวเอง
ไม่ผิดจากที่คาดการณ์เอาไว้ ไม่นานนักนกปรอดหัวโขนทั้งสองตัวก็บินกลับมาพร้อมแมลงหลายตัวในจะงอยปากของทั้งคู่ ฟังก์ชั่นถ่ายภาพนิ่งถูกใช้งานเพียงชั่วครู่เดียวก่อนปรับเป็นการถ่ายภาพเคลื่อนไหว มีไม่กี่ครั้งสำหรับการใช้ความสามารถนี้ของกล้องและผมว่าครั้งนี้มันเกินกว่าคำว่าคุ้มค่า นกทั้งสองตัวยังคงบินเข้าออกอยู่ตลอดไม่แสดงอาการเหน็ดเหนื่อยให้เห็น ผมนั่งรื่นรมย์ฟังเสียงร้องอันไพเราะและชื่นชมการดำรงชีวิตได้อย่างชื่นใจใกล้ชิดโดยไม่ต้องพรากพวกมันออกจากสถานที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ไปสู่คุกที่เรียกว่า "กรงนกสวยงาม" แต่อย่างใด
นาฬิกาบอกเวลาห้าโมงเย็นแล้ว พระอาทิตย์ลดระดับลงทางทิศตะวันตกแต่แสงสว่างยังคงอยู่ ลมพัดแรงกว่าเดิม ความรู้สึกบอกได้เลยว่าอุณหภูมิเริ่มลดลงเรื่อย ๆ นกปรอดคู่นั้นยังคงบินหาอาหารสลับเข้าออกรังเพื่อเลี้ยงลูกของพวกมัน คณะสำรวจฯ โผล่ออกมาตรงถนนดินหน้าทางเข้าหน่วยฯ ยังคงอีกไกลกว่าจะมาถึงอาคารสำนักงาน หลังจากการสอบถามเมื่อคณะเดินทางมาถึงก็ทราบว่าอาการหลับอย่างเอร็ดอร่อยเป็นสาเหตุให้ไม่มีสมาชิกคนไหนยอมปลุกผมก่อนออกเดินสำรวจ มื้ออาหารเย็นถูกนัดแนะเวลาและสถานที่เป็นเรือนพักของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า
หลังจากท้องอิ่มแน่นด้วยมื้ออาหารเย็น หลังจากทำธุระส่วนตัว หลังคำกล่าวราตรีสวัสดิ์ถูกเอ่ย สมาชิกก็แยกย้ายเพื่อพักผ่อน บ้างนอนดูรายการทีวี บ้างเปิดเพลงฟัง ส่วนผมกลับเข้าเต็นท์ที่พักซึ่งกางไว้ชานระเบียงสำนักงาน ก่อนหลับผมคิดถึงนกปรอดหัวโขนคู่นั้น ยินดีให้กับอิสระในชีวิตของพวกมัน อิสระในการโบยบินหากิน อิสระในการท่องไปในถิ่นอาศัย อิสระในการดำรงชีวิตสืบทอดเผ่าพันธุ์ ถึงแม้จะเหนื่อยอ่อนไปบ้างก็พักผ่อนนอนหลับแล้วตื่นมาในเช้าของอีกวันหนึ่ง
"แล้วพบกันใหม่ในวันพรุ่งนี้" ผมบอกพวกมันในใจ
เกี่ยวกับผู้เขียน
"แต่เดิมเป็นเด็กบ้านนอกจากจั
พบกับบทความ "แบกเรื่องป่าใส่บ่ามาเล่า" ของ “จองื้อที” ได้ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน