หอดูดาวซีกฟ้าใต้ยุโรป(EuropeanSouthern Observatory) เผยภาพแรกของหลุมดำระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันที่10เม.ย.2019ซึ่งเผยให้เห็นแสงรัศมีอันเจิดจ้ารอบๆใจกลางที่ดำมืดนับเป็นภาพแรกที่พิสูจน์ตรงๆถึงการมีตัวตนของหลุมดำ
สำหรับภาพหลุมดำที่เผยแพร่ออกมานี้เป็นภาพหลุมดำมวลยิ่งยวดที่อยู่ในกาแล็กซีM87ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ของเรา6.5พันล้านเท่าและหมุนตามเข็มนาฬิกาซึ่งภาพจากกาแล็กซี M87นี้เป็นสิ่งยืนยันแบบจำลองหลุมดำที่หมุนได้ตามที่นักวิทยาศาสตร์มีอยู่แล้วและนักวิทยาศาสตร์ได้เห็นภาพตามที่แบบจำลองพยากรณ์ไว้
เฟรเดอริคเกอธ (FredericGueth) รองผู้อำนวยการสถาบันดาราศาสตร์วิทยุมิลลิเมทริก(Institutefor Millimetric Radio Astronomy: IRAM) ในเกรโนเบิลฝรั่งเศส อธิบายถึงการบันทึกภาพหลุมดำดังกล่าวว่าเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์อีเวนท์ฮอไรซัน(EventHorizon Telescope) ได้ควบคุมกล้องโทรทรรศน์วิทยุทั้งหมดที่มีบนโลกให้สังเกตการณ์หลุมดำพร้อมๆกันอย่างเคร่งครัด
ภายในเครือข่ายมีกล้องโทรทรรศน์ทั้งหมด8ตัวในฮาวาย แอริโซนา สเปน เม็กซิโกชิลี และขั้วโลกใต้ซึ่งกล้องเหล่านี้ตั้งอยู่บนภูเขาและกระจายอยู่ใน4ทวีปและกล้องทั้ง 8ตัวได้ร่วมสังเกตหลุมดำที่อยู่ในกาแล็กซีM87ซึ่งเป็นกาแล็กซีวงรีขนาดใหญ่ที่อยู่ในตำแหน่งกลุ่มดาวหญิงสาว(Virgo)เมื่อมองจากบนพื้นโลกโดยเครือข่ายกล้องได้เปิดและปิดเครื่องเป็นเวลา10วันเพื่อบันทึกภาพหลุมดำนี้เมื่อเดือนเม.ย.2017ที่ผ่านมา
เมื่อรวมข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยเทคนิคที่เรียกว่า “verylong baseline interferometry” นั้นช่วยให้ทีมนักดาราศาสตร์ได้สร้างเสาอากาศที่มีความยาวเท่าเส้นผ่านศูนย์กลางโลกโดยมีความละเอียดระดับมิลลิเมตรซึ่งเป็นความยาวคลื่นที่เหมาะสำหรับศึกษาหลุมดำเนื่องจากคลื่นสามารถผ่านเมฆฝุ่นที่บดบังหลุมดำ
เกอธกล่าวว่าตามคำนิยามแล้วเราไม่สามารถมองเห็นหลุมดำได้โดยตรงและไม่มีทางที่จะได้เห็นแต่เราทราบว่ามีแถบสสารที่เป็นก๊าซร้อนหรือที่เรียกว่าพลาสมาอยู่รอบๆหลุมดำ พร้อมๆกับเศษซากของดาวฤกษ์ที่ถูกดึงทึ้งด้วยแรงโน้มถ่วงจึงเกิดเป็นภาพที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
“สิ่งที่เราเห็นในภาพนี้คือเงาของขอบหลุมดำที่รู้จักกันว่า “ขอบฟ้าเหตุการณ์”(eventhorizon) หรือตำแหน่งที่ไม่อาจหวนคืนอยู่ติดกับแถบมวลสะสมเรืองแรงขอบฟ้าเหตุการณ์นั้นค่อนข้างเล็กกว่า(เส้นผ่านศูนย์กลาง)ของเงาหลุมดำโดยตัวหลุมดำเองอยู่ภายในขอบฟ้าเหตุการณ์”เกอธอธิบาย
“ความท้าทายตอนนี้คือการวัดความหนาแน่นที่แน่นอนของสสารรอบๆหลุมดำ และเพื่อทำความเข้าใจบทบาทสำคัญของสนามแม่เหล็ฏและหาคำตอบว่าสสารที่ิอยู่ภายในแถบสสารนั้นหมุนได้อย่างไร”เกอธระบุ
ทั้งนี้ทีมนักดาราศาสตร์จะเดินหน้าโครงการต่อในอีกไม่กี่ปีที่จะมาถึงนี้โดยจะมีกล้องโทรทรรศน์ใหม่มาเพิ่มในโครงการอีก2ตัวคือกล้องโทรทรรศน์โนมา(NOEMAtelescope) ในฝรั่งเศสและกล้องโทรทรรศน์ในกรีนแลนด์
ขณะที่หลุมดำSagittariusA ในทางช้างเผือกของเรานั้นอยู่ห่างออกไปเพียง2600ปีแสงแต่กาแล็กซี M87อยู่ห่างจากโลกถึง50ล้านปีแสงซึ่งความพยายามถ่ายภาพหลุมดำดังกล่าวนี้เหมือนความพยายามบันทึกภาพก้อนกรวดบนดวงจันทร์
ทั้งนี้หลุมดำเป็นปริศนาของนักวิทยาศาสตร์ในฐานะ“ดาวมืดมิดที่มองไม่เห็น”มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18แต่ผ่านไปนานนับศตวรรษนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่เคยส่องพบหลุมดำด้วยกล่้องโทรรศน์เลยและยิ่งเป็นเรื่องยากมากขึ้นอีกสำหรับการบันทึกภาพหลุมดำ ซึ่งกว่า30ปีที่ผ่านมาภาพหลุมดำที่เห็นเป็นเพียงภาพที่ศิลปินวาดขึ้น
ภาพหลุมดำภาพแรกนี้ได้รับการวิเคราะห์ใน 6งานวิจัยซึ่งมีนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญจาก60สถาบันเข้าร่วมวิเคราะห์และได้เผยแพร่ผลงานวิจัยนี้ลงในวารสารแอสโตรฟิสิคัลเจอร์นัลเลตเตอร์ส(AstrophysicalJournal Letters)