สวทช. จับมือทีเซลส์ คิกออฟ "โครงการวิจัยอาหารฟังก์ชันในมนุษย์" ติดปีกผู้ประกอบการไทย พัฒนาอาหารฟังก์ชันเน้นตลาดสังคมผู้สูงอายุ พร้อมขึ้นทะเบียน อย.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ร่วมกับ TCELS หรือศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) จัดสัมมนาเรื่อง Food, Gene and Health Opportunities and Challenge และเปิดตัวโครงการ การวิจัย พัฒนาและทดสอบทางคลินิก สำหรับอาหารฟังก์ชัน
เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันหรืออาหารมีวัตถุประสงค์พิเศษสำหรับสังคมผู้สูงอายุและการวิจัยทางคลินิกในอาหารฟังก์ชัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้จริง มุ่งรองรับความต้องกลุ่มผู้บริโภคผู้สูงอายุได้แท้จริงพร้อมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โรงแรม เรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพฯ
นายเฉลิมพล ตู้จินดา ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า โปรแกรม ITAP สวทช. มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในหลากหลายอุตสาหกรรมโดยในอุตสาหกรรมอาหาร ITAP ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่การพัฒนาและเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบ ทำให้มีความหลากหลาย หรือสร้างนวัตกรรมด้วยการปรับวิธีการผลิตหรือรูปแบบการบริโภค พัฒนาให้อาหารมีอายุเก็บรักษาที่นานขึ้น โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นอาจารย์ที่จบด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารหรือนักพัฒนาผลิตภัณฑ์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ
ในปี 2559 ถึงปัจจุบัน ITAP ได้ดำเนินโครงการการพัฒนาอาหารสุขภาพเพื่อสังคมผู้สูงอายุ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และช่วยพัฒนาผู้ประกอบการ ในการปรับทิศทางการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีจำนวนมากในสังคมผู้สูงอายุ จากการดำเนินโครงการ 3 ปีได้ต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารที่พร้อมจำหน่ายเช่น เยลลี่สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการกลืน ซุปข้นสำหรับรับประทานระหว่างมื้อ เครื่องดื่มมันเทศผสมธัญพืชที่มีค่า GI ปานกลางและไข่ขาวผงพร้อมชงสำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนสูงเป็นต้น
“การที่ ITAP สวทช. ผนึกกำลังกับหน่วยงานที่พร้อมสนับสนุนการวิจัยเฉพาะด้านในเชิงลึก เพื่อสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยอย่าง TCELS จึงเกิดโครงการ การวิจัยพัฒนาและทดสอบทางคลินิกสำหรับอาหารฟังก์ชัน ซึ่งจะเป็นกลไกช่วยสนับสนุนและพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทย ที่มีศักยภาพด้านการผลิตอยู่แล้วให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มอาหารฟังก์ชัน และการวิจัยทางคลินิก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคและเป็นข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ได้"
ในส่วนการขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยโครงการฯจะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มผู้ผลิตส่วนผสมอาหาร และกลุ่มผู้ผลิตอาหาร โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา โดยเฉพาะอาจารย์แพทย์ นักกำหนดอาหาร นักโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอาหาร นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงนักการตลาด และปรึกษา อย. อย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยบ่มเพาะและสร้างแนวคิดผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชันร่วมกับผู้ประกอบการ และผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การทำ Nutrition Workshop เพื่อรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการให้มากขึ้น และใช้ความรู้ด้านโภชนาการมาออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์การศึกษาดูงานอาหารฟังก์ชัน ณ ต่างประเทศรวมถึงการเข้าใจและวิธีการทำตลาดให้โดนใจผู้สูงอายุ
"เพื่อเป้าหมายปลายทางที่ต้องการให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาอาหารฟังก์ชันที่ผลิตโดยคนไทยและมีผลการวิจัยในมนุษย์ซึ่งโครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญและจะมีก้าวต่อๆไปสู่การวิจัยพัฒนาอาหารเฉพาะบุคคล อาหารตามยีนหรือ Nutrigenomics ให้สังคมผู้สูงอายุมีสุขภาพดี มีอาหารอร่อยและปลอดภัยและลดความเสี่ยงของการเกิดโรค NCDs” ผู้อำนวยการโปรแกรม TAP สวทช. กล่าว
ด้าน ดร.ศิรศักดิ์ เทพาคำ รองผู้อำนวยการด้านวิชาการและนวัตกรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS เผยว่า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ฯ มีบทบาทในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ ให้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นให้การสนับสนุนการวิจัยและการเข้าถึงการบริการของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สุขภาพและการแพทย์ เช่น การทดสอบวิจัยในเซลล์ ในสัตว์ทดลองและในมนุษย์เพื่อยื่นประกอบการพิจารณาอนุญาตฉลากอาหารและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
ดร.ศิรศักดิ์ระบุว่า ผลิตภัณฑ์อาหารสุขภาพหรืออาหารฟังก์ชันมีการเติบโตขึ้นทุกปีเนื่องจากมีผู้ป่วยมากขึ้น ด้วยโรค Chronic Diseases (คือโรคเรื้อรัง) และโรค NCDs คือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากไลฟ์สไตล์วิธีการใช้ชีวิต จำนวนผู้สูงอายุทั่วโลกเพิ่มขึ้นสุขภาพจึงเป็นปัญหาสำคัญของผู้สูงอายุด้วยการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เป็นไปตามวัยเกิดโรคได้ง่าย เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคเบาหวาน ข้อเสื่อม รับประทานอาหารได้น้อยลงรวมถึงการเคี้ยวและการกลืน แนวคิดการป้องกันก่อนเกิดโรค หรือการบำบัดด้วยโภชนศาสตร์ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วตามความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น การศึกษาวิจัยความเชื่อมโยงระหว่างอาหารที่บริโภคกับการแสดงออกของยีน (Nutrigenomics) การพัฒนาอาหารเฉพาะบุคคล (Personalized Foods)เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคดังนั้นหากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทยปรับกลยุทธ์การผลิตจากที่ผลิตอาหารทั่วไปเป็นผลิตอาหารฟังก์ชั่นหรืออาหารมีวัตถุประสงค์พิเศษสำหรับสังคมผู้สูงอายุและรองรับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริงย่อมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมได้อย่างแน่นอน” ดร.ศิรศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษเช่น นวัตกรรมด้านอาหารกับการแข่งขันในไทยแลนด์ยุค 4.0 โดย ศ.เภสัชกรหญิง ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อโอกาสทองของตลาดอาหารสำหรับผู้สูงวัย ทำอย่างไรให้โดนใจผู้บริโภค โดย พรรณิดา แก้วปทุมทิพย์ บริษัท สปริงบอร์ด คอนซัลติ้ง จำกัด หัวข้อการขึ้นทะเบียนอาหารใหม่และอาหารมีวัตถุประสงค์พิเศษ โดย นฤมล ฉัตรสง่า สำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมแนะนำโครงการ ”การวิจัย พัฒนา และทดสอบทางคลินิก สำหรับอาหารฟังก์ชัน” โดย เสาวภา ยุววุฑโฒ ผู้แทนจาก สวทช.และ จิรนิจ ปางทอง ผู้แทนจาก TCELS , หัวข้อปัญหาปวดใจของ Geriatrician โดย อ.พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี แลัหัวข้ออาหารตามยีนของผู้สูงอายุกับเทคโนโลยการตรวจวัดสารอาหารที่ร่างกายต้องการ และกรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล โดย ดร.กอบกุล สุดสวนศรี บริษัท ไทย เซลล์ฟิกซ์ จำกัด