xs
xsm
sm
md
lg

(ถ้ำ)มอง

เผยแพร่:   โดย: ฉัตรพรรษ พงษ์เจริญ


สายลมเย็นอ่อนพลิ้วพัดกระทบสดชื่นยามพระอาทิตย์ลอยขึ้นพ้นขอบฟ้า แสงแดดและอุณหภูมิแผดเผายามพระอาทิตย์ลอยอยู่เหนือกลางหัวเหงื่อไคลไหลอาบตัว และสายฝนที่ฟาดกระหน่ำหนักส่งผลให้น้ำขังรอการระบายปริ่มขอบล่างประตูรถยนต์คันใหญ่ ตามด้วยเสียงก่นด่าสาบแช่งต่อความลำบาก ความล่าช้า และความเสียหายที่ก่อเกิดขึ้นจากสายฝน หลายคนรวมทั่งผมเองก็ใคร่สงสัยอยู่ไม่น้อยว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาของฤดูกาลใดกันแน่ แต่กระนั้นสิ่งมีชีวิตหลายชนิดต่างยินดีปรีดากับอุณหภูมิและความชุ่มฉ่ำจากสายฝนที่ร่วงหล่นลงมา เพราะนั่นหมายถึงช่วงเวลาแสนสำคัญช่วงหนึ่งในชีวิตของเหล่าพวกมัน

เสียงคางคกเซ็งแซ่กระหึ่มกอปรกับเสียงร้องของอึ่งอ่างดังระงมรอบบ้านพักและสถานที่ทำงานอยู่แทบทุกค่ำคืน บางครั้งดังได้ยินไปถึงชั้นบนไกลของตึกสูงใหญ่ บางครั้งก็ผิดวิสัยปกติในเวลากลางวันหรือแสงแดดยังคงส่องสว่าง อันเป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมสำคัญในช่วงชีวิตของสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเหล่านี้ เหล่าเพศผู้จะมารวมตัวหรือเข้าใกล้แหล่งน้ำและเริ่มส่งเสียงร้องเรียกตัวเมียให้เข้าหา บ่อยครั้งเพศผู้ของอึ่งขนาดเล็กหลายชนิดจำนวนมากจะมารวมตัวกันรอบแหล่งน้ำขังในผืนป่าและส่งเสียงร้องพร้อมกันอันเป็นประสบการณ์แปลกหูสำหรับผมที่ได้ยินได้พบเจอ สำหรับสถานการ์ตรงหน้า “อ่อด อ่อด อ่อด” เสียงคล้ายเครื่องยนต์ดังต่อกันเป็นจังหวะยาวเป็นเสียงของคางคกบ้านเพศผู้ในแอ่งน้ำขังตรงหน้าที่เกิดจากสายฝนเมื่อคืน คละกับเสียง “อื่งงงงงงงง อ่างงงงงงงงง” เป็นจังหวะ ๆ สลับกันไปของอึ่งอ่างบ้านเพศผู้ แต่จริงแท้แล้วอึ่งอ่างบ้านมีเรียงร้องเพียงจังหวะเดียวคือพยางค์แรก แต่พยางค์หลังที่นั้นเกิดจากสะท้อนกลับของเสียงที่กระทบเข้ากับวัตถุโดยรอบไม่ใช่เสียงร้องจากตัวอึ่งอ่างเอง

เมื่อเพศเมียมาถึงสงครามแก่งแย่งขนาดเล็กก็เกิดขึ้น เนื่องจากสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีการปฏิสนธิของไข่กับสเปิร์มภายนอกร่างกาย นั่นเองเป็นสาเหตุให้พวกมันต้องมารวมตัวรอบแหล่งน้ำเพื่อใช้น้ำเป็นสื่อกลางในการปฏิสนธิ การเกาะหลังของเพศผู้อยู่กับเพศเมียก็เพื่อให้สเปิร์มของตัวมันเองมีโอกาสในการเข้าปฏิสนธิดีที่สุดและสามารถปฏิสนธิได้มากที่สุด พร้อมการเกาะรัดนั้นอาจจะช่วยกระตุ้นให้เพศเมียวางไข่ได้เร็วขึ้น เราจึงพบว่าบ่อยครั้งจะเกิดการแก่งแย่งแข่งขันเพื่อเข้าเกาะรัดเพศเมีย ถ้าเพศผู้มีจำนวนน้อยการแก่งแย่งแข่งขันต่ำ แต่บางครั้งเพศผู้มีจำนวนมากทำให้เกิดการแก่งแย่งแข่งขันสูง เพศเมียบางตัวอาจจะถูกเกาะโดยเพศผู้จำนวนมากจนเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้โดยง่าย แต่ในกรณีของคางคกในแอ่งน้ำขังตรงหน้า เพศผู้ผู้โดดเดี่ยวมีเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น ถึงแม้มันจะไม่ยอมแพ้พยายามเข้าไปแย่งเกาะแกะกับคู่อยู่ใกล้แต่ก็ถูกเพศผู้ตัวที่เกาะอยู่ใช้ตีนคู่หลังถีบไล่ไสหัวซึ่งก็เป็นหนึ่งในกลไกการป้องกันคู่ตามปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ

“น่าสงสารแต่พยายามผิดที่ไปหน่อยนะ” ผมพูดในใจถึงเจ้าคางคกบ้านเพศผู้ผู้อนาถาตัวนั้น

นอกจากคางคกเพศผู้และเพศเมียแล้วแอ่งน้ำตรงหน้าคลาคล่ำไปด้วยสายไข่พันพัลวันจำนวนมาก สายไข่ยาวใสมีจุดไข่สีดำเรียงไปตามยาวเป็นเอกลักษณ์กลุ่มไข่ของคางคกซึ่งแตกต่างจากสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกกลุ่มและชนิดอื่น สายไข่ยาวใสมีจุดไข่สีดำเรียงไปตามยาวเป็นเอกลักษณ์กลุ่มไข่ของคางคกซึ่งแตกต่างจากสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกกลุ่มและชนิดอื่น ๆ ที่กลุ่มไข่อาจจะติดกันเป็นแพลอยผิวน้ำ กลุ่มไข่จับกลุ่มจมติดท้องน้ำ หรือกลุ่มไข่ซ่อนอยู่ภายในก้อนฟองสีขาวครีม “น่าจะเป็นสายไข่ของคู่คางคกที่จับคู่วางไข่ไปก่อนหน้า” ผมคิด ตามปกติธรรมชาติเมื่อเพศเมียและเพศผู้ปล่อยไข่พร้อมสเปิร์มเสร็จแล้วจะแยกย้ายปล่อยกลุ่มไข่ของมันเผชิญชะตากรรมในการเจริญเติบโตเป็นลูกอ๊อดก่อนจะกลายเป็นตัวอ่อนและตัวเต็มวัยต่อไปเอง ยกเว้นในสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกบางชนิดอาจจะมีการเลี้ยงดูไข่และลูกอ๊อดถึงบางช่วงเวลาหนึ่ง

“จะรอดไหมเนี่ย” ผมเกิดความสงสัยจากสถานที่ของแอ่งน้ำขังบนพื้นปูนในที่เปิดโล่ง ไม่มีร่มเงาปกคลุม แนวโน้มจากแสงแดดและอุณหภูมิยามเที่ยงของประเทศไทยที่น่าจะทำให้แอ่งน้ำเล็ก ๆ นี้เหือดแห้งไปในเวลาไม่พ้นข้ามคืน

ผมยืนนิ่งจ้องมองอยู่ครู่ใหญ่ก่อนความคิดแว่บแล่นเข้ามาในหัว

“มีงานต้องทำให้เสร็จค้างไว้อยู่นี่หว่า”

เกี่ยวกับผู้เขียน

จองื้อที

แต่เดิมเป็นเด็กต่างจังหวัดจากภาคตะวันออก มุ่งมั่นเข้ามาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความสนใจส่วนตัวและถูกชักชวน จึงเลือกเข้าศึกษาในภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ สาขาวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าและทุ่งหญ้า ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้มีโอกาสช่วยเก็บข้อมูลงานวิจัยสัตว์ป่าในหลายพื้นที่ หลังจากสำเร็จการศึกษาได้รับคำแนะนำให้ไปศึกษาต่อยังสถาบันอื่น จึงได้เข้ามาศึกษาต่อ ณ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระดับปริญญาโทต่อมาถึงในระดับปริญญาเอก และยังคงมีสถานภาพเป็นนิสิตอยู่ในปัจจุบันขณะ


"เราพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย เพื่อที่สุดท้ายแล้วเราจะได้รู้ว่า แท้จริงแล้งเราไม่ได้รู้อะไรเลย"



พบกับบทความ "แบกเรื่องป่าใส่บ่ามาเล่า" ของ “จองื้อที” ได้ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น