สอว.วิจัยสำเร็จข้าวก่ำล้านนาสายพันธุ์ใหม่ ”ก่ำหอม มช.–ก่ำเจ้า มช.107”กลิ่นหอม มีธาตุเหล็ก สังกะสี และแอนโทไซยานินสูง ยับยั้งมะเร็ง-โรคหัวใจ เผยใช้วิทยาศาสตร์ยกระดับตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
เมื่อวันที่ 19 กันยายน น.ส.ทิพวัลย์ เวชการัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เปิดเผยว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ ร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาข้าวก่ำล้านนา ที่กำลังจะสูญหายไปจากพื้นที่นาภาคเหนือ เพราะคุณลักษณะของเมล็ดข้าวไม่เป็นที่นิยม เพื่อให้ได้ข้าวก่ำสายพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้นและอุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
"ทั้งนี้ ได้ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาและยกระดับข้าวไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ปรับปรุงพันธุ์ข้าว เร่งกระบวนการปลูกและการเจริญเติบโตของต้นข้าว แปรรูปข้าวเพื่อเพิ่มคุณค่าและต่อยอดเทคโนโลยีด้านข้าวให้กลายเป็นนวัตกรรมข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวที่มีมาตรฐานและคุณค่าสูงจนเป็นที่ยอมรับ"
ด้าน รศ.ดร.ชนากานต์ เทโบลต์ พรมอุทัย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ภาคเหนือมีข้าวเหนียวดำพันธุ์หนึ่ง พบคุณลักษณะของพันธุ์ข้าวหลากหลาย เช่น ต้นกล้าที่เจริญเติบโตในแต่ละช่วงอายุมีสีสันแตกต่างกัน ทั้งสีเขียวเข้ม เขียวอ่อน หรือม่วง บางต้นมีกลิ่นหอมของลำต้นและเมล็ด ขณะที่บางต้นไม่มี
"จึงทดลองปรับปรุงพันธุ์โดยใช้วิธีการคัดเลือกแบบ Pure Line Selection หรือการคัดเลือกพันธุ์แท้ จนได้ข้าวก่ำสายพันธุ์ใหม่และใช้ขื่อพันธุ์ข้าวก่ำชนิดนี้ว่า "ก่ำหอม มช." ซึ่งมีกลิ่นหอม มีธาตุเหล็ก และแอนโทไซยานินสูง โดยข้าวสายพันธุ์นี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการใช้เทคโนโลยีพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ได้ข้าวก่ำคุณภาพดีที่สุด ตอบสนองความต้องการของตลาดในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า"
นอกจากนี้ คณะนักวิจัยจากคณะเกษตรศาสตร์ มช. ยังได้นำข้าวก่ำสายพันธุ์ “ก่ำดอยสะเก็ด” (พันธุ์พ่อ) ผสมกับข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 (พันธุ์แม่) โดยใช้วิธีการปลูกคัดเลือกข้าวลูกผสมแบบสืบตระกูลที่เรียกว่า Pedigree Method of Selection ควบคู่กับการตรวจสอบความหอม การประเมินความสามารถในการปรับตัวและเสถียรภาพจนเกิดเป็นข้าวเจ้าก่ำสายพันธุ์ดีเด่นที่สามารถปลูกในเชิงเกษตรกรรมได้ โดยมีลำต้นสูงประมาณ 143 เซนติเมตร แต่ให้ผลผลิตมากถึง 680 กิโลกรัม/ไร่ เยื่อหุ้มเมล็ดมีสีม่วงดำสนิท ไม่มีสีอื่นปน และเมื่อหุงสุกหรือเย็นแล้วเม็ดข้าวก็ยังคงมีลักษณะนุ่ม
"ตั้งชื่อให้กับข้าวก่ำสายพันธุ์นี้ว่า “ก่ำเจ้า มช. 107” พร้อมจดทะเบียนขึ้นเป็นพันธุ์พืชใหม่เมื่อปลายปี 2560 และพร้อมออกสู่ตลาด ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ ลดคอเรสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือก ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งกระเพาะ ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด"