xs
xsm
sm
md
lg

สาด(แสง)

เผยแพร่:   โดย: ฉัตรพรรษ พงษ์เจริญ


“ปีนี้น้ำเยอะมาก อันตราย ทางเขตฯ เลยปิดน้ำตกยังไม่เปิดให้ท่องเที่ยว” เสียงปลายสายตอบกลับมาเมื่อถูกถามไถ่เรื่องราวทั่วไปว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง “ความปลอดภัยต้องมาก่อนอยู่แล้วครับ ถ้าว่างหรือได้เข้าเก็บข้อมูลงานวิจัยเมื่อไหร่ผมจะแวะเข้าไปเยี่ยมนะครับพี่” ผมตอบกลับก่อนสายโทรศัพท์ถูกวางหลังคำล่ำลาสองรอบขึ้นไปเป็นอย่างน้อย

เสียงฝนลงเม็ดลอดผ่านประตูหน้าต่างของตัวอาคารทำให้ความคิดเรื่องการเดินทางออกจากใจกลางย่านเมืองหลวงต้องผลัดออกไป “เป็นแบบนี้ไปยังไปก็ไม่น่าจะทัน” ผมถอดใจและย้อนคิดถึงสถานที่ที่หนึ่งที่เวลาดูจะไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่นักเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างใจนึก

......................

“ไปๆๆ ขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวไม่ทัน” เสียงตะโกนดังมาจากฝั่งโรงจอดรถยนต์ด้านล่าง

รุ่นพี่เจ้าของรีสอร์ทซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเดินทางร้องเรียกสมาชิกที่มัวแต่โอ้เอ้ละเลียดกาแฟยามเช้าในเวลาสาย เหล่าสมาชิกวางแก้วกวาดหยิบเอาขอเครื่องใช้ส่วนตัวยัดเข้าถุงสะพายกันน้ำแล้วพากันขึ้นพาหนะขนส่ง เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจก็ถึงท่าปล่อยตัวอันจุดหมายแรก

ลำห้วยเบื้องหน้าเป็นคำตอบให้อย่างดีสำหรับอุปกรณ์เดินทางขนาดใหญ่หลังกระบะ แพเรือยางลมเต่งขนาดบรรทุกผู้โดยสารหกที่นั่งถูกลำเลียงไปยังริมห้วยเพื่อรอเตรียมการปล่อย ซึ่งมีเรือยางขนาดแปดที่นั่ง สิบที่นั่ง กำลังเข้าคิวต่อแถวกันเป็นลำดับกำลังรอการปล่อยลงสู่ลำห้วยพร้อมกับนักท่องเที่ยวอีกหลายคณะ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่เรือแพยางพาหนะของคณะเราก็ออกเดินทางไปตามร่องห้วยของพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

“น้ำวันนี้ขุ่นกว่าช่วงปีก่อน ๆ น่าจะเพราะปีนี้อุ้มผางฝนตกตลอดไม่ขาดช่วงเลย” เป็นคำอธิบายถึงน้ำสีน้ำตาลอ่อนรอบแพเรือยยางไหลเอื่อยไปตามร่องห้วยใหญ่ หน้าผาชันและต้นไม้สดเขียวเป็นทัศนียภาพคาดหวังอยู่แล้วว่าจะต้องได้เห็นไปตลอดทาง แต่สิ่งที่น่าตื่นใจคือความสวยงามของน้ำซึมไหลหล่นจากหน้าผาเป็นทางสายยาวรินลงสู่ลำห้วย ขณะที่บางจุดไหลลงกระทบมอสและตะไคร่ชอุ่มสีเขียวสดตัดกับก้อนหินสีดำขลับได้อย่างสะดุดตาแต่กลมกลืน

“เวลาดีสำหรับน้ำตกสายรุ้งนี้ก็น่าจะเป็นตอนประมาณแปดโมงครึ่งน่ะ ช่วงนี้สายรุ้งจากแสงแดดแสะท้อนละอองน้ำเหมาะที่สุด” ข้อมูลการชมถูกส่งต่อจากคนในพื้นที่มาสู่คณะเดินทาง ผมก้มมองดูเวลาจากนาฬิกาบนข้อมือพร้อมความคิดที่ผุดขึ้นในหัวว่า “น่าจะไม่ทันซะแล้ว”

เมื่อแพเรือยางพาหนะหลุดคุ้งโค้งน้ำมาถึงจุดชมน้ำตก ก็พบเรือแพยางอื่นจอดเรียงรวมอยู่กันจำนวนหนึ่ง สมาชิกของคณะท่องเที่ยวล่องลงเรือมากก่อนหน้ากำลังรับชมสายรุ้ง บ้างมอง บ้างสนทนา บ้างถ่ายรูป และแน่นอนว่าต้องมีกิจกรรมการเซลฟี่รูปภาพเกิดขึ้น ผมยิ้มหัวเราะมุมปากเงียบ ๆ

ผิดจากการคาดการณ์ในแง่ร้ายของผม รุ้งยังคงเหลืออยู่หนึ่งสายและกำลังลดระดับคล้อยต่ำหายลงไปในลำห้วยสีน้ำตาลอ่อนอย่างต่อเนื่องและเลือนหายไปในที่สุดก่อนเรือยางพาหนะจะเข้าเทียบหาดทรายฝั่งตรงข้าม “น่าเสียดาย มาถ่ายรูปไม่ทัน” เสียงบ่นดังขึ้นพร้อมกับความคิดในใจผมเรื่องกาแฟในยามเช้านี้ที่เสียเวลากับมันมากเกินไป

สีสันของพรรณพืชเขียว ความระยิบของหยดน้ำ ความมืดเงาดำของหลืบหินผา แสงอาทิตย์สาดแรงยามสายเผยให้เห็นสัดส่วนและละอองฟุ้งน้ำของน้ำตกสายรุ้งได้ถนัดชัดเจนมากขึ้น

ตำแหน่งตั้งกล้องถ่ายรูปบันทึกภาพ เลนส์รับแสงหลายตัวหลายช่วงระยะ ฟิลเตอร์ลดการสะท้อนแสงมากมายถูกเปลี่ยน เสียงชัตเตอร์กดบันทึกภาพดังไม่ขาด สำหรับผมภาพงามที่สุดขณะนั้นคงเป็นการมองด้วยสายตาเปล่าไม่ผ่านการปรุงแต่งใดใดและถึงแม้ว่าแม้จะไม่ได้ยลจุดเด่นของน้ำตกอย่างที่สมาชิกต้องการ แต่ความงามของหินเปียกและละอองน้ำสะท้อนแสงแดดในวันนั้นไม่ได้แค่สร้างความสดชื่นให้กับตัวน้ำตกและพื้นที่โดยรอบเท่านั้น

แต่ยังแพร่ซึมผ่านเข้าไปในใจไม่อาจเลือน

เกี่ยวกับผู้เขียน

จองื้อที

แต่เดิมเป็นเด็กต่างจังหวัดจากภาคตะวันออก มุ่งมั่นเข้ามาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความสนใจส่วนตัวและถูกชักชวน จึงเลือกเข้าศึกษาในภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ สาขาวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าและทุ่งหญ้า ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้มีโอกาสช่วยเก็บข้อมูลงานวิจัยสัตว์ป่าในหลายพื้นที่ หลังจากสำเร็จการศึกษาได้รับคำแนะนำให้ไปศึกษาต่อยังสถาบันอื่น จึงได้เข้ามาศึกษาต่อ ณ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระดับปริญญาโทต่อมาถึงในระดับปริญญาเอก และยังคงมีสถานภาพเป็นนิสิตอยู่ในปัจจุบันขณะ


"เราพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย เพื่อที่สุดท้ายแล้วเราจะได้รู้ว่า แท้จริงแล้งเราไม่ได้รู้อะไรเลย"



พบกับบทความ "แบกเรื่องป่าใส่บ่ามาเล่า" ของ “จองื้อที” ได้ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น