xs
xsm
sm
md
lg

เจอกะโหลกบรรพบุรุษช้าง 4 งาที่สูญพันธุ์ในฝรั่งเศส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักบรรพชีวินวิทยาของพิพิธภัณฑ์ในตูลูสนั่งพิจารณากะโหลกของช้างดึกดำบรรพ์ที่พบในฟาร์มของชาวไร่ที่ฝรั่งเศส (HO / Musee dHistoire Naturelle de Toulouse / AFP)
กว่าที่ชาวไร่ชาวฝรั่งเศสจะเผยเรื่องราวที่ได้เจอหัวกะโหลกของบรรพบุรุษช้างที่สูญพันธุ์ไปแล้วก็ผ่านไปหลายปี ด้วยความหวั่นใจว่านักสะสมซากดึกดำบรรพ์จะยกโขยงกันมาที่ฟาร์ม แต่ก็ได้ติดต่อพิพิภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาในที่สุด

หัวกะโหลกบรรพบุรุษช้างดังกล่าวเป็นของช้างมาสโตดอนแห่งพิรานีสที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งรายงานจากเอเอฟพีเผยว่า ชาวไร่ฝรั่งเศสได้พบกะโหลกดังกล่าวระหว่างทำไร่ภายในฟาร์มใกล้ๆ หมู่บ้านลี-ล็อง-โดดง (L'Isle-en-Dodon) แถบเทือกเขาพิเรนีส (Pyrenees mountains) ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวห่างจากเมืองตูลูสของฝรั่งเศสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 70 กิโลเมตร

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเมืองตูลูส (Natural History Museum of Toulouse) เผยว่า ชาวไร่ผู้พบกะโหลกช้างดังกล่าวหวั่นกรงว่านักสะสมซากดึกดำบรรพ์จะยกโขยงกันไปที่ฟาร์มของเขา จึงได้เก็บเรื่องการพบกะโหลกช้างดกดำบรรพ์ไว้เป็นความลับถึง 2 ปี จึงได้ติดต่อไปยังพิพิธภัณฑ์

ทางด้านผู้จัดการพิพิธภัณฑ์ระบุว่า เมื่อทีมงานของพิพิธภัณฑ์ไปถึงพื้นที่ค้นพบเมื่อปี 2017พวกเขาก็ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการค้นพบดังกล่าว

ฟรองซัวส์ ดูร์รันธอน (Francis Duranthon) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิยาตูลูส เผยแก่เอเอฟพีว่า ช้างดึกดำบรรพ์ดังกล่าวคือสปีชีส์กอมโฟทีเรียมพิเรแนกัม (gomphoterium pyrenaicum) ซึ่งเป็นช้างที่มี 4 งา และมีความยาววดได้ถึง 80 เซ็นติเมตร โดยงาบน 2 ข้างติดอยู่ที่กรามบน และงาล่าง 2 ข้างติดอยู่ที่กรามล่าง

ก่อนหน้าที่จะพบกะโหลกช้างดังกล่าวนั้น ในบริเวณเดียวกันนี้เคบยมีการค้นพบงา 4 ข้างเมื่อปี 1857 ซึ่งบ่งบอกว่า เมื่อหลายล้านปีก่อนยักษ์ใหญ่กินพืชชนิดนี้ ได้โลดแล่นไปบนดินแดนที่ปัจจุบันกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส และตอนนี้เราได้พบกะโหลกของช้างดึดำบรรพ์นี้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ต่อภาพลักษณะทางกายวิภาคของช้างชนิดนี้ได้ชัดเจนขึ้น

“เรากำลังประกอบรูปหน้าของสปีชีส์ช้างที่แทบจะเป็นนิยายปรัมปรา” ปิแอร์ ดาลูส (Pierre Dalous) ภัณฑรักษ์ของพิพิธภัณฑ์กล่าว


สำหรับกะโหลกของช้างดึกดำบรรพ์นั้นถูกขุดและนำไปยังห้องปฏิบัติการโดยที่ยังมีหินบางส่วนห่อหุ้มกะโหลกไว้อยู่ ซึ่งดาลูสระบุว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์ต้องค่อยๆ กะเทาะหินดังกล่าวออกทีละเซ็นติเมตร เพื่อเปิดให้เห็นกะโหลกของช้างส่วนที่เหลือ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่างานดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้ต้องใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน
กะโหลกของช้างกอมโฟทีเรียมแห่งเทือกเขาพิรานีส (HO / Musee dHistoire Naturelle de Toulouse / AFP)
กะโหลกของช้างกอมโฟทีเรียมแห่งเทือกเขาพิรานีส (HO / Musee dHistoire Naturelle de Toulouse / AFP)


กำลังโหลดความคิดเห็น