สำหรับคอลัมน์นี้ผมเปิดตัวด้วยภาพนักถ่ายดาวกับฉากหลังที่เป็นแนวใจกลางทางช้างเผือก เพราะอยากสื่อให้เห็นถึงความหลงใหล ความคลั่งไคล้ ในการออกไปถ่ายภาพดวงดาวของบรรดานักถ่ายภาพ ซึ่งบุคคลในภาพนั้นท่านก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการถ่ายภาพดวงดาวและคอยออกเดินทางไปหาสถานที่ใหม่ๆ ในการถ่ายดาว รวมทั้งเหล่าบรรดานักถ่ายภาพดวงดาวอื่นๆ เช่นกัน
หลายครั้งที่นักถ่ายภาพดวงดาวมักจะมาเจอกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งความบังเอิญนี้เกิดจากการเตรียมตัว วางแผนและเฝ้ารอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสมทั้งสภาพอากาศและตำแหน่งทิศทางของวัตถุท้องฟ้าไว้ล่วงหน้า และที่สำคัญคือทุกคนจะดูล่วงหน้าว่าช่วงเดือนนั้นหรือหลังจากนั้นจะมีวัตถุท้องฟ้าอะไรบ้างให้ได้ตามถ่ายภาพกันบ้าง
แต่สิ่งสำคัญในช่วงเดือนนี้เป็นต้นไป หากวันไหนท้องฟ้าไม่มีฝนและปราศจากเมฆ วันนั้นท้องฟ้ามักจะใสเคลียร์แบบสุดๆ และวัตถุท้องฟ้าที่เป็นไฮไลท์แต่ช่วงเดือนนี้ก็คือ “ทางช้างเผือก”นั้นเอง เนื่องจากเราจะสามารถสังเกตเห็นแนวใจกลางทางช้างเผือกกันได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ และหากวันไหนฟ้าใสไม่มีแสงจันทร์รบกวน เราก็จะสามารถถ่ายภาพทางช้างเผือกกันได้ตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าตรู่กันเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากเราจะสามารถถ่ายภาพแนวใจกลางทางช้างเผือกแบบเลนส์มุมกว้างได้โดยปราศจากแสงจักรราศีรบกวนแล้ว บริเวณแนวใจกลางทางช้างเผือกยังมีวัตถุอวกาศในห้วงลึก (Deep Sky Objects) อีกหลายวัตถุให้ได้ถ่ายภาพกันตลอดทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นกระจุกดาวทรงกลม เนบิวลาต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับใจกลางทางช้างเผือกซึ่งมีอยู่หลากหลายวัตถุด้วยกัน
สิ่งที่ควรใส่ใจในการวางแผนถ่ายภาพในช่วงฤดูฝน
สำหรับสิ่งที่ควรให้ความสำคัญในช่วงฤดูฝนนี้ก็คือ การตรวจเช็คสภาพอากาศในแต่ละวัน โดยปกติผมมักดูจากแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันก็มีความแม่นยำพอสมควร ตัวอย่างเช่น กรณีช่วงที่มีการพยากรณ์ว่าช่วงกลางวันฝนจะตก และหลังเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ท้องฟ้าจะเคลียร์ตลอดทั้งคืน กรณีแบบนี้ก็น่าเสี่ยงออกไปถ่ายภาพครับ แต่หากพยากรณ์บอกว่าฟ้าจะใสแต่ไม่กี่ชั่วโมงแบบนี้ก็อาจไม่คุ้มที่จะออกไปถ่ายสักเท่าไรครับ
ปัญหาของสภาพท้องฟ้าฟ้าหลังฝนตก
ปัญหาหลักของการถ่ายภาพฟ้าหลังฝนก็คือ “ความชื้นในอากาศ” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่มาคู่กันฟ้าใสก็ต้องทำใจกับความชื้น ปกติความชื้นก็มักสูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ยังสามารถป้องกันความชื้นที่มักทำให้เกิดฝ้าขึ้นหน้ากล้อง ด้วยอุปกรณ์ไล่ฝ้าหน้ากล้อง (ทำเองได้ได้ลิงก์ https://goo.gl/UqPs3f) ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ควรมีติดกระเป๋าไว้อุ่นใจกว่า
สร้างโอกาสให้ตัวเอง
สำหรับนักถ่ายดาวผู้หลงใหลการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์นั้น เรามักสร้างโอกาสให้กับตัวเองเสมอ เพื่อให้สามารถได้ออกไปเก็บภาพที่เป็นช่วงโอกาสทองของสภาพท้องฟ้าที่เหมาะกับการถ่ายภาพวัตถุท้องฟ้าในช่วงฤดูฝนไว้ดังนี้
- วางแผนไว้ล่วงหน้าเสมอ
- หมั่นตรวจสอบสภาพอากาศเป็นประจำ
- สำรวจสถานที่ใหม่ๆ ไว้รอวันฟ้าใสเสมอ
- ตรวจสอบทิศทางที่จะสามารถสังเกตเห็นวัตถุท้องฟ้าที่ต้องการถ่ายภาพไว้ว่าไม่มีแสงเมืองรบกวน
- ขยันในการฝึกฝนทักษะและเทคนนิคการถ่ายภาพ รวมทั้งการสั่งสมประสบการณ์
- การลงทุนกับอุปกรณ์เท่าที่จำเป็น
เกี่ยวกับผู้เขียน
ศุภฤกษ์ คฤหานนท์
สำเร็จการศึกษาครุศาสตรบัณฑิต สาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
ปัจจุบันเป็นหัวหน้างานบริการวิชาการทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร., เคยทำวิจัยเรื่อง การทดสอบค่าทัศนวิสัยท้องฟ้าบริเวณสถานที่ก่อสร้างหอดูดาวแห่งชาติ มีประสบการณ์ในฐานะวิทยากรอบรมการดูดาวเบื้องต้น และเป็นวิทยากรสอนการถ่ายภาพดาราศาสตร์ในโครงการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ประจำปี 2554 ของ สดร.ในหัวข้อ “มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์ในเมืองไทย”
“คุณค่าของภาพถ่ายนั้นไม่เพียงแต่ให้ความงามด้านศิลปะ แต่ทุกภาพยังสามารถอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย”
อ่านบทความ "มหัศจรรย์ภาพถ่ายดาราศาสตร์" โดย ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ทุกวันจันทร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน