นักโบราณคดียีอิปต์พบมัมมี่สามัญชน 17 ร่าง ในสุสานใต้ทะเลทรายที่จังหวัดมินยาทางงตอนใต้ของไคโร และยังพบโลงหินที่ทำจากหินปูนและโคลน รวมถึงหีบศพของสัตว์และนก แต่ยังไม่ได้คำนวณหาความเก่าแก่ของมัมมี่
รัฐมนตรีกระทรวงโบราณคดีของอียิปต์เผยว่า นักโบราณคดีของอียิปต์ได้ค้นพบมัมมี่ของสามัญชน 17 ร่าง ฝังอยู่ในสุสานใต้ทะเลทรายที่ จ.มินยา อยู่ทางตอนใต้ของกรุงไคโร ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่เคยค้นพบมัมมี่มนุษย์มาก่อน
ตามรายงานเอเอฟพีระบุว่า นักโบราณคดีได้พบมัมมี่เหล่านี้หลังจากตามร่องรอยสุสานจากอำเภอทูนา เอล-กาบาล (Touna el-Gabal) ของจังหวัดตอนกลางของอียิปต์ และพวกเขายังได้พบแผ่นทองคำและเอกสารอียิปต์โบราณ รวมถึงโลงหินที่ทำขึ้นจากหินปูนและโคลน อีกทั้งยังมีโลงสำหรับสัตว์และนกด้วย แต่ยังไม่ได้หาความเก่าแก่ของมัมมี่เหล่านั้น
รัฐมนตรีของอียิปต์ยังกล่าวด้วยว่า มัมมี่เหล่านี้อยู่ในยุคปลาย (Late Period) ของอารยธรรมอียิปต์ ซึ่งกินเวลานานเกือบ 300 ปี จนกระทั่งพระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) พิชิตอียิปต์ได้เมื่อ 332 ปีก่อนคริสตศักราช
ทว่าโฆษกของกระทรวงโบราณคดียีอิปต์บอกทางเอเอฟพีว่า พวกเขาหาอายุของมัมมี่ย้อนไปได้ถึงยุคราชวงศ์ทอเลมี (Ptolemaic Dynasty) ซึ่งสถาปนาโดยนายพลทอเลมี (Ptolemy) ของพระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราช
อีกทั้งทางเว็บไซต์ทางการยังระบุว่าด้วยว่า การค้นพบร่างมัมมี่ที่ไม่ใช่ของราชวงศ์นี้ เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน เพราะเป็นการค้นพบครั้งแรกในพื้นที่ดังกล่าว
ซาลาห์ อัล-คอลิ (Salah al-Kholi) นักอียิปต์วิทยา กล่าวระหว่างแถลงข่าวกลางทะเลทรายใกล้ๆ บริเวณทีขุดพบมัมมี่ว่า การค้นพบดังกล่าวเป็นสุสานมนุษย์แห่งแรกที่พบทางตอนกลางของอียิปต์ พร้อมด้วยร่างมัมมี่จำนวนมาก และเพิ่มเติมว่าน่าจะมีการค้นพบมากขึ้นอีกในพื้นที่ดังกล่าว
โมฮัมเมด ฮัมซา (Mohamed Hamza) ผู้อำนวยการขุดสำรวจแห่งมหาวิทยาลัยไคโร (Cairo University) กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้มีความสำคัญและไม่คาดคิดมาก่อน ขณะที่คาเลด เอล-อีนานี (Khaled al-Enany) รัฐมนตรีกระทรวงโบราณคดีของอียิปต์กล่าวว่า การค้นพบนั้นเพิ่มเริ่มต้น
การค้นพบครั้งนี้ยังเป็นการค้นพบมัมมี่ที่ได้รับการป่าวประกาศอย่างครึกโครมจากทางรัฐบาลของอียิปต์ โดยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงโบราณคดีของอียิปต์ได้เชิญสื่อมวลชนไปยังเมืองทางตอนใต้ของรัฐลักซอร์ เพื่อเผยมัมมี่ 8 ร่างที่ค้นพบในสุสาน 3,500 ปีของชนชั้นสูง
รายงานของเอเอฟพียังระบุว่า การค้นพบเหล่านี้เป็นความรุ่งเรืองจากอดีตจากที่มีประโยชน์ต่ออียิปต์ ซึ่งเผชิญปัญหานักท่องเที่ยวหดหายจากความหวาดกลัวการโจมตีของกลุ่มนักรบอิสลาม
อีนานีกล่าวว่า โบราณคดีคืออำนาจละมุนที่บ่งบอกความเป็นอียิปต์ ข่าวคราวเกี่ยวกับโบราณคดีเป็นสิงที่เชื่อมโลกเข้าหาอียิปต์
เอเอฟพีระบุว่า มีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนที่ไปเยือนอียิปต์ทุกปีเพื่อชมปิรามิดกีซา (Giza Pyramids) ซึ่งเป็นหนึ่งอนุสาวรีย์ของเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์จากโลกโบราณที่หลงเหลืออยู่ รวมถึงการเยี่ยมชมวิหารฟาโรห์และโบราณวัตถุอื่นๆ แต่จากการลุกฮือฮาของประชาชนเพื่อต่อต้าน นายฮอสนี มูบารัค (Hosni Mubarak) เมื่อปี 2011 ก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทำให้นักท่องเที่ยวลดลง