นาซาเผยภาพดาวเสาร์ในระยะใกล้ๆ โดยไม่ผ่านการปรับแต่งที่ได้จาก “ยานแคสสินี” ซึ่งผ่านเข้าไปในช่องว่างระหว่างดาวเสาร์และวงแหวนเมื่อ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา
ยานแคสสินี (Cassini) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) เพิ่งผ่านเข้าไปในช่องว่างระหว่างวงแหวนและดาวเสาร์เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2017 ที่ผ่านมา แล้วได้ส่งภาพและข้อมูลกลับมาเมื่อเวลา 14.01 น.ของวันที่ 27 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย
นาซาได้เผยแพร่ภาพที่ได้จากยานอวกาศระหว่างการผ่านเข้าไปในช่องว่างดังกล่าวโดยไม่ได้ปรับแต่งภาพใดๆ ภาพที่เผยแพร่ในเบื้องต้นเป็นภาพชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์ในระยะใกล้ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกได้
ทั้งนี้ ยังไม่เคยมียานอวกาศลำใดผ่านเข้าไปในช่องว่างดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงลุ้นต่อภารกิจดำดิ่งในครั้งนี้ของยานแคสสินีเป็นอย่างมาก โดยยานอวกาศมีกำหนดผ่านเข้าไปในช่องว่างดังกล่าวทั้งหมด 22 รอบ และครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 2 พ.ค.
ระหว่างผ่านเข้าไปในช่องว่างยานแคสสินีใช้จานรับสัญญาณซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เมตรเป็นเกราะกำบังระหว่างผ่านเข้าไปในดินแดนที่ยังไม่มีเคยมียานอวกาศจากโลกลำใดผ่านเข้าไป แม้ว่าอนุภาคในบริเวณดังกล่าวจะมีขนาดไม่เกินอนุภาคของฝุ่นควันก็ตาม
ในช่วงที่ยานแคสสินีอยู่ในช่องว่างระหว่างวงแหวนและดาวเสาร์นั้นยานได้ตัดการเชื่อมต่อกับโลก โดยยานได้รับการโปรแกรมให้เก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ขณะผ่านใกล้ดาวเคราะห์วงแหวน และส่งสัญญาณกลับมายังมาเมื่อโคจรกลับมาในทิศทางเข้าหาโลก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมงหลังผ่านเข้าไปในช่องว่าง
ยานแคสสินีถูกส่งขึ้นไปจากโลกเมื่อปี 1997 และยานไปได้เดินไปถึงดาวเสาร์เมื่อปี 2004 ซึ่งหลังจากได้บินผ่านไททัน (Titan) ดวงจันทร์ขนาดใหญ่ของดาวเสาร์เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ยานได้เข้าสู่ภารกิจใหญ่ครั้งสุดท้ายที่เรียกกันว่าเป็น “แกรนด์ฟินาเล่” (Grand Finale)
ยานแคสสินีใช้เวลาวนรอบดาวเสาร์รอบละ 1 สัปดาห์ และจะวนรอบดาวเคราะห์ในช่องว่างระหว่างวงแหวนและดาวเคราะห์ทั้งหมด 22 รอบ ซึ่งข้อมูลที่จะได้จากการบินเข้าไปในช่องว่างครั้งแรกนี้จะช่วยให้วิศวกรได้ทราบว่า ในอนาคตพวกเขาจะปกป้องยานอวกาศที่ต้องผ่านเข้าไปในวงแหวนได้อย่างไร เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจใหญ่แล้วยานแคสสินีจะพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์ในวันที่ 15 ก.ย.2017 เป็นอันปิดฉากการทำงานของปฏิบัติการที่กินเวลายาวนาน 20 ปี