“สตีเฟน ฮอว์กิง” นักจักรวาลวิทยาร่างพิการผู้อัจฉริยะ ปฏิเสธการเข้าร่วมประชุมวิชาการที่จะจัดขึ้นในเดือน มิ.ย.ที่กรุงเยรูซาเลม เพื่อคว่ำบาตรทางวิชาการแก่อิสราเอล โดยเป็นการตัดสินในบนพื้นฐานความเข้าใจส่วนตัวของเขาเองเกี่ยวกับผลกระทบที่ชาวปาเลสไตน์ได้รับ
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 18-20 มิ.ย. 2013 จะมีการประชุมใหญ่ทางวิชาการที่กรุงเยรูซาเลมของอิสราเอล แต่สเปซด็อทคอมและไลฟ์ไซน์ได้อ้างรายงานข่าวจากบีบีซีว่า สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) นักจักรวาลวิทยาร่างพิการชื่อก้อง ได้ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมงานสัมมนาดังกล่าว
ด้านคณะกรรมการอังกฤษเพื่อมหาวิทยาลัยแห่งปาเลสไตน์ (British Committee for the Universities of Palestine : BRICUP) ซึ่งเป็นองค์กรทางวิชาการในอังกฤษที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการคว่ำบาตรทางวิชาการตามข้อเรียกร้องของปาเลสไตน์ แถลงว่าการตัดสินใจของฮอว์กิงเป็นไปอย่างอิสระ ภายใต้พื้นความรู้ของเขาเกี่ยวกับปาเลสไตน์
การประชุมที่อิสราเอลเป็นการประชุมระดับประธานาธิบดีที่จะพูดถึงสิ่งที่จะต้องเผชิญในอนาคต ทั้งด้านภูมิศาสตร์การเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม การศึกษา สื่อใหม่ และอื่นๆ อีกทั้งยังจะฉลองวันเกิด 90 ปี ให้แก่ประธานาธิบดี ชิมอน เปเรส (Shimon Peres) ด้วย โดยการประชุมประจำปีดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 แล้ว
เดิมทีฮอว์กิงในวัย 71 ปี มีกำหนดปาฐกฐาในพิธีเปิดประชุมวิชาการ ซึ่งในงานดังกล่าวมีคนใหญ่คนโต รวมทั้งผู้มีชื่อเสียงได้รับเชิญให้เข้าร่วมมากมาย อาทิ บิล คลินตัน (Bill Clinton) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเข้ารับรางวัลในงานเดียวกันนี้ หรือ เดวิด อะเลกซ์ร็อด (David Axelrod) อดีตที่ปรึกษาอาวุโสของนายบารัค โอบามา (Barack Obama) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงนักแสดงหญิงชารอน สโตน (Sharon Stone) ด้วย
สำหรับฮอว์กิงนั้นเขาได้รับการยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีอัจฉริยะต่อจาก อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) ซึ่งแม้ว่าเขาจะเจ็บป่วยจากโรคลูเกห์ริกส์ (Lou Gehrig's disease) หรือโรคเอแอลเอส (ALS) แต่เขาก็สร้างองค์ความรู้ที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเอกภพ เขาคาดการณ์ว่าในระดับกลศาสตร์ควอนตัมนั้นสสารสามารถหลุดพ้นจากหลุมดำได้ และหลุมดำก็พ่นอนุภาคในกระบวนการที่เรียกว่าการแผ่รังสีฮอว์กิง (Hawking radiation)