คำพูดแรกเมื่อก้าวเหยียบบนดวงจันทร์ของ “นีล อาร์มสตรอง” ได้กลายเป็นประโยคทองตลอดกาลที่สะท้อนความฝันอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ตัวเล็กๆ ที่เดินทางไปถึงดวงจันทร์ แต่เสียงที่ขาดหายไปบางเสียงอาจเปลี่ยนความหมายของคำพูดอมตะไปอย่างมาก
ขณะที่คนบนโลกได้ยินว่า “ก้าวเล็กๆ ของมนุษย์ แต่เป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ” ("That's one small step for man, one giant leap for mankind.") แต่ นีล อาร์มสตรอง (Neil Armstrong) มนุษย์คนแรกที่ก้าวลงบนดวงจันทร์เมื่อปี 1969 บอกว่าสิ่งที่พูดนั้นแตกต่างจากที่ทุกคนได้ยินเล็กน้อย นั่นคือ เขาพูดว่า “ก้าวเล็กๆ ของมนุษย์ 'คนหนึ่ง' …”
อาร์มสตรองที่เพิ่งจากโลกไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2012 บอกสื่อมวลชนหลังเสร็จภารกิจในปฏิบัติการอะพอลโล 11 (Apollo 11) ว่า แค่ทุกคนไม่ได้ยินคำว่า “คนหนึ่ง” (ซึ้งเป็นเสียง a สั้นๆ) เท่านั้น
สเปซด็อทคอมอ้างรายงานของเอพีว่า แค่เสียงสั้นๆ ที่หายไปนั้นก็ทำให้เกิดความหมายที่แตกต่างกันมาก เพราะหากขาดเสียงนั้นไป หมายความว่านีล อาร์มสตรองไม่ได้กล่าวถึงก้าวเล็กๆ ของตัวเอง แต่กล่าวถึงก้าวเล็กๆ ของมวลมนุษยชาติ และถึงแม้จะมั่นใจว่าเอ่ยเสียงนั้นออกไป แต่อาร์มสตรองก็กล่าวระหว่างฉลองครบรอบ 30 ปีของการเหยียบดวงจันทร์ว่า เขาเองก็ไม่ได้ยินเสียงสั้นๆ ของตัวเองในเสียงที่บันทึกจากการสนทนาระหว่างเดินบนดวงจันทร์ (moonwalk)
ในปี 2006 ปีเตอร์ ชานน์ ฟอร์ด (Peter Shann Ford) นักโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ออกมาสนับสนุนอาร์มสตรอง เขาได้ดาวน์โหลดเสียงที่บันทึกคำพูดของมนุษย์บนดวงจันทร์จากเว็บไซต์ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) และวิเคราะห์ประโยคนั้นด้วยซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้คนที่ไร้สมรรถภาพสามารถสื่อสารผ่านคอมพิวเตอร์โดยใช้คลื่นสมองของพวกเขาได้
จากภาพกราฟิกของคลื่นเสียงของประโยคอันโด่งดังนี้ ฟอร์ดกล่าวว่าเขาพบหลักฐานที่ชี้ถึงเสียง “a” ที่หายไป โดยเป็นเสียงที่ยาวเพียง 35 มิลิวินาที ซึ่งเป็นสั้นเกินกว่าหูมนุษย์จะได้ยิน ซึ่งอาร์มสตรองก็เคยกล่าวถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ของฟอร์ดว่า ทำให้เขาได้เห็นถึงความน่าสนใจและประโยชน์ของเทคโนโลยีดังกล่าว
วินาทีที่ 50 นีล อาร์มสตรองกล่าวประโยคแรกเมื่อเหยียบดวงจันทร์ว่า ก้าวเล็กๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง แต่เป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ"
