“ว้าว” สัญญาณคลื่นวิทยุลึกลับที่ตรวจวัดได้เมื่อ 35 ปีก่อน กำลังจะได้รับสัญญาณตอบกลับจากมนุษย์ โดยการรวบรวมข้อความจากทวิตเตอร์เข้ารหัสเป็นข้อความหนึ่งเดียวส่งกลับไปยังต้นทางของสัญญาณที่คาดว่าเอเลียนส่งมา พร้อมความคาดหวังว่า “นักวิทยาศาสตร์เอเลียน” จะถอดข้อความได้
ตามรายงานของไลฟ์ไซน์ข้อความที่ถูกทวีตตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น.ของวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ตามเวลาประเทศไทย และติดแท็ก #ChasingUFOs นั้นจะถูกรวบเป็นข้อความเดียว ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของช่องเนชันนัลจีโอกราฟิก (National Geographic Channel) ซึ่งกำหนดเวลาทวีตข้อความตรงกับช่วงเวลาปฐมทัศน์ของซีรีส์ชุดใหม่เรื่อง Chasing UFOs
ข้อความที่ถูกเข้ารหัสจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในทิศทางเดียวกับข้อความที่คาดว่าเป็นของมนุษย์ต่างดาวส่งมายังโลก โดยจะส่งขึ้นไปในวันที่ 15 ส.ค.ซึ่งตรงกับวันที่สัญญาณ “ว้าว” ถูกตรวจจับได้ในปี 1977
คริสติน มอนทาลบาโน (Kristin Montalbano) โฆษกของช่องเนชันนัลจีโอกราฟิกล่าวว่า ได้ร่วมมือกับหอดูดาวอาเรซิโบ (Arecibo Observatory) เพื่อพัฒนาวิธีดีที่สุดสำหรับเข้ารหัสข้อความสำหรับส่งไปในอวกาศ โดยวิธีการส่งนั้นจะอย่างเรียบง่ายโดยข้อความจะซ่อนอยู่รูปแบบที่ซับซ้อนแต่เห้นได้ชัดเจนว่าแตกต่างจากสัญญาณรบกวนที่ไม่มีรูปแบบในธรรมชาติ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะใช้เลขฐานสอง ซึ่งมีตัวเลขแค่ 0 และ 1 เรียงกัน
สำหรับสัญญาณ “ว้าว” นั้นเป็นสัญญาณเดียวที่แหลมออกมาจากสัญญาณปกติตลอด 4 ทศวรรษของการค้นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญานอกโลกในโครงการเซติ (SETI: Search for Extra-Terrestrial Intelligence) โดยหอดูดาววิทยุบิกเอียร์ (Big Ear radio observatory) ณ มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตท (Ohio State University) ได้จับสัญญาณวิทยุความเข้มสูงนาน 72 ที่ส่งตรงมาจากทิศทางของกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius)
ณ จุดแหลมสุดของสัญญาณนั้นมีพลังงานมากกว่าการแผ่รังสีโดยรอบจากอวกาศห้วงลึก 30 เท่า ซึ่ง เจอร์รี เอห์แมน (Jerry Ehman) นักดาราศาสตร์อาสาสมัครในโครงการได้เขียนคำว่า “ว้าว” หวัดๆ อยู่ข้างข้อมูลสัญญาณดังกล่าว และทำให้คำนี้ถูกใช้เพื่อเรียกสัญญาณที่ถูกส่งมาจากอวกาศ
อย่างไรก็ดี ไม่มีใครรู้ว่าสัญญาณที่ดูเหมือนจะไม่ใช่สัญญาณจากธรรมชาตินั้น ถูกส่งตรงมายังเหล่าโดยมนุษย์ต่างาวจริงหรือไม่ และแม้จะมีความพยายามที่ยิ่งยวดแต่นักวิทยาศาสตร์ก็ไม่เคยจัดการตรวจวัดการส่งสัญญาณจากตำแหน่งเดิมในท้องฟ้าอีกเลย และผ่านมา 35 ปีไลฟ์ไซน์ระบุว่าสัญญาณว้าวก็ยังเป็นปริศนาดำมืด แต่นักวิทยาศาสตร์ก็หวังว่าหากมีนักวิทยาศาสตร์มนุษย์ต่างดาวอยู่จริงแล้วก็อยากให้มีโชคที่ดีกว่าในการถอดรหัสการตอบกลับของมวลมนุษยชาติ
ด้าน มอนทาลบาโนบอกทางเว็บไซต์ไลฟ์สลิตเติลมิสเทอรีส์ (Life's Little Mysteries) ว่า หลังจากนักวิทยาศาสตร์ของโลกอื่นเข้าใจในรูปแบของสัญญาณแล้ว ก็น่าจะได้รับความท้าทายในการถอดรหัสสัญญาณที่เราส่งออกไปและเข้าใจภาษาของเราได้ หากพวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ส่งสัญญาณมาหาเรา การค้นพบสัญญาณของสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจากโลกอื่นนั้นน่าจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขา (ที่อาจจะมีอยู่) แต่หากเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ส่งสัญญาณ “ว้าว” มาหาเรา พวกเขาเหล่านั้นก็น่าจะมีอารยธรรมที่ก้าวหน้าไปมาก
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ต้องการเครื่องส่งสัญญาณ 2.2 กิกะวัตต์ ซึ่งมีกำลังมากกว่าสถานีวิทยุภาคพื้นดินใดๆ ที่มีอยู่
