กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - กระทรวงวิทยาศาสตร์ ร่วมหารือ ผู้บริหารสถาบันการศึกษา สภาอุตสาหกรรม หอการค้า และผู้ประกอบการทั่วภาคอีสาน รวมทั้ง สปป.ลาว เพื่อหาแนวทางการบริหารกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ หวังสร้างประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมทั้งประเทศ และภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยภายหลังการประชุม หารือแนวทางการบริหารกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 มี.ค.54 เห็นชอบ แนวทางการบริหารกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ ที่ให้มีหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ในภาพรวมของประเทศ ว่า กว่า 5 ปีที่ผ่านมานั้นอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นับว่ามีบทบาทสำคัญในการผลักดันและเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค พร้อมทั้ง ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมในพื้นที่ และช่วยในการจัดจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
ปลอดประสพ กล่าวว่า สำหรับภารกิจของอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือเป็นกลไกลสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ สถาบันอุดมศึกษาและภาคเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานความรู้ โดยผลักดันการพึ่งตนเองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและอุตสาหกรรม ทั้งในประเทศและภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยจะเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการบริการการวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี ให้แก่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ
“ดังนั้นอนาคตอันใกล้นี้ทุกภาคส่วนต้องเร่งปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) โดยเฉพาะการเข้าร่วมกับประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องเร่งพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้พร้อมบริการอย่างเต็มรูปแบบ” ปลอดประสพ กล่าว
นอกจากนี้กระทรวงวิทยาศาสตร์ยังได้ประชุมความร่วมมือในการพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์กับมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว พร้อมทั้งเยี่ยมชมการดำเนินงานหน่วยงานบ่มเพาะธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และการหารือในครั้งนี้ปลอดประสพระบุว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะนำข้อมูล ที่ได้ ส่งเข้าเป็นวาระการพิจารณา ในการประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป