ความง่วงนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในยามที่พักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออ่อนล้า เริ่มตั้งแต่เวลาทำงาน ขับรถ และความง่วงมักจะเข้ามาหาเราโดยไม่ทันตั้งตัว อุบัติเหตุจึงเป็นผลร้ายสำคัญที่จะตามมา
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี ได้บอกว่า ช่วงหลังอาหารเที่ยง หรือประมาณ 14.00-16.00 น. นั้นจะเป็นเวลาที่เกิดอาการง่วงสุดขีด จึงต้องหาเวลาแอบไปงีบสัก 10-15 นาที เพื่อชาร์ตแบตให้มีพลัง แต่หากหาโอกาสงีบไม่ได้จะทำอย่างไรดี นพ.มนูญ มีคำตอบ
"สิ่งแรกคือต้องดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังที่มีสารคาเฟอีน เพื่อกระตุ้นไม่ให้เกิดความง่วง ต่อมาอาจต้องคลายความง่วงด้วยการยืน เดินไปเดินมา หรือหาเพื่อนคุย เพื่อบรรเทาอาการง่วงนอนให้คลายลง และที่น่าจะเห็นผลสุดคือการล้างหน้า เมื่อร่างกายเจอน้ำเย็นๆ จะสร้างความสดชื่นให้กับร่างกาย อาการง่วงก็จะหายเป็นปลิดทิ้งทันที"
อย่างไรก็ดี นพ.มนูญ บอกว่า การที่ร่างกายเกิดอาการง่วงมากๆ นั้น เกิดจากอาการที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดอาการง่วงสะสม ดังนั้น คนวัยทำงานควรจะนอนพักผ่อนประมาณ 7-8 ชั่วโมง วัยรุ่น 8 ชั่วโมงครึ่ง เด็กประมาณ 11 ชั่วโมง หากเป็นทารกเกิดใหม่ต้องนอนถึง 16 ชั่วโมงจึงจะเพียงพอ