เนคเทคดึงแนวร่วม 4 ภาค เกษตร การศึกษา การแพทย์และท่องเที่ยว ระดมแนวคิดสร้าง Smart Service มาตรฐานบริการฐานไอที ชี้จะเป็นหนทางให้หลายภาคส่วนแข็งขันได้มากขึ้น ยกตัวอย่างความสำเร็จ Traffy และ SizeThailand
ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เปิดเผยถึงแนวโน้มว่า เทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอทีจะเข้าไปแทรกในบริการใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการผู้ใช้บริการทุกคนมากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการคนที่มีความรู้ในการดูแลระบบไอทีมากตามไปด้วย และด้วยพื้นฐานคนไทยที่ชอบให้บริการ จึงมีคำถามว่าจะทำอย่างไรให้บริการต่างๆ นั้นขยายวงได้มากขึ้น ดังนั้นเนคเทคจึงได้เริ่มโครงการ Samrt Serviec ซึ่งเน้นใน 4 ด้านคือ การเกษตรและอาหาร การแพทย์ การศึกษาและการท่องเที่ยว
ขณะที่ ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) กล่าวว่า ภาคบริการได้สร้างรายได้ให้ประเทศในสัดส่วนถึง 52% มากกว่าภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร แต่ท้งนี้ไม่ได้หมายความว่าภาคบริการมีความสำคัญกว่า หากแต่เป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้ภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมมีโอกาสในการแข่งขันมากขึ้น
พร้อมกันนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ได้ยกตัวอย่างความสำเร็จในธุรกิจบริการ "ซีรอกซ์" (Xerox) บริษัทผู้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งผลิตเครื่องถ่ายเอกสารที่มีราคาเป็นหลักล้าน ซึ่งไม่ใช่ราคาที่จะขายให้กับบริษัททั่วไปได้ จึงได้เสนอให้บริการถ่ายเอกสาร โดยทางซีรอกซ์ไม่คิดค่าเครื่องแต่คิดค่าใช้จ่ายในการถ่ายเอกสารเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินการทางธุรกิจ
ขณะเดียวกันก็มีตัวอย่างการให้บริการแบบ Smart Service ซึ่งเป็นผลงานของคนไทยที่ รองผู้อำนวยการ สวทช.ได้ยกอย่าง เช่น Traffy เว็บไซต์ที่ให้บริการรายงานภาพจราจร แต่ตอนนี้มีคู่แข่งที่น่ากลัวคือ Google ที่ประกาศให้บริการรายงานสภาพจราจรผ่านบริการ Google Map แล้ว จึงเป็นปัญหาให้ขบคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไร หลังจากที่ไทยก้าวนำบริษัทยักษ์ใหญ่มาได้เพียง 1 ปี
หรือบริการ SizeThailand ที่วัดมาตรฐานรูปร่างของคนไทย อันเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมที่ขึ้นอยู่กับขนาดของคนโดยตรงอย่าง อุตสาหกรรมแฟชั่นและเสื้อผ้า ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์และยานยนต์ รวมถึงการแพทย์ยังนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอดได้ เป็นต้น
ทั้งนี้เนคเทคได้จัดประชุมสัมมนา Smart Service with Reserch innovation : Special Interest Group Initiative ขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 ธ.ค.52 ณ โรงแรมสยามซิตี เพื่อระดมความคิดจาก 4 กลุ่มคือ การเกษตร การแพทย์ การศึกษาและการท่องเที่ยว เพื่อเป้าหมายในการจัดตั้งศูนย์วิจัย พัฒนาและนวัตกรรมด้านการบริการในประเทศไทยขึ้น ซึ่งสหรัฐฯ ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยลักษณะเดียวกันนี้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว