xs
xsm
sm
md
lg

Once Upon a Time...กาลครั้งหนึ่ง "โลกร้อน" กลายเป็นนิทาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ปภาวี เล็กสกุลดิลก หรือนุ่น
หลายคนเคยตื่นตระหนกกับ "ข้อมูลจริง" ทางวิทยาศาสตร์ของภาวะโลกร้อนจนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรักษาโลกใบนี้ให้ยังโอบอุ้มเราต่อไป แต่สำหรับบางคนอาจต้องได้รับการกล่อมเกลาจากนิทานที่ไม่ได้จบแบบ "แฮปปี้" จึงจะเริ่มตระหนักถึงมหันตภัยธรรมชาติ อันเป็นผลพวงจากน้ำมือมนุษย์

ในกิจกรรม "คุยกัน...ฉันวิทย์" ณ ร้านทรูคอฟฟี่ ซ.3 เมื่อวันที่ 29 พ.ย.52 ที่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เข้าร่วมนั้น น.ส.ปภาวี เล็กสกุลดิลก หรือนุ่น นักเรียนสายวิทย์-คณิต ภาคภาษาอังกฤษ ชั้น ม.5 โรงเรียนโยธินบูรณะซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จากการประกวดเขียนเรียงความระดับเยาวชน Junior IMPAC Dublin Literary Award for Thailand ได้มาเล่าประสบการณ์งานเขียนดังกล่าว

นุ่นเล่าว่า การประกวดนี้กำหนดให้เขียนในหัวข้อ Once Upon a Time ซึ่งเธอได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน มาบอกเล่าในรูปของนิทาน เพราะภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาใกล้ตัวที่อยากจะชี้ให้ทุกคนเห็นความสำคัญ และถ้าได้ลองศึกษาเรื่องนี้ในวิธีที่แปลกใหม่ อาจจะทำให้เกิดความสนใจและเห็นความสำคัญมากขึ้น และปกติเมื่ออ่านนิทานแล้ว มักจะจบแบบมีความสุข แต่ชีวิตจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น และถ้านิทานไม่ได้จบแบบมีความสุขเราอาจจะอยากทำให้ในชีวิตจริงแบบมีความสุขได้

นิทานเรื่องนี้ นุ่นเล่าถึงโลกอนาคตที่ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปจากภาวะโลกร้อน ผู้คนไม่สามารถออกไปต่างที่ต่างๆ ได้ เพราะแสงแดดที่เป็นอันตราย และคำคืนที่หนาวเหน็บจนทำให้ผู้คนแข็งตายได้ คนที่เหลืออยู่ต้องอาศัยอยู่ในถ้ำ และนางเอกของเรื่องมีปู่ที่เล่านิทานเก่ง และมักเล่านิทานเกี่ยวเทพนิยาย เจ้าหญิง-เจ้าชายซึ่งจบอย่างมีความสุขให้เธอฟัง

จนวันหนึ่งปู่ของเธอต้องออกไปหาน้ำและถูกแสงแดดทำอันตราย ซึ่งก่อนที่ปู่จะสิ้นลม เขาได้เล่าเรื่องโลกในอดีตที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจี ความอุดมสมบูรณ์ ความสุขสบายของโลกยุคเก่า ทั้งเครื่องบิน-รถยนต์ที่พาเราไปไหนต่อไหนได้ คอมพิวเตอร์เครื่องจักรที่น่าอัศจรรย์ แต่ความสะดวกสบายเหล่านี้ตีค่าเป็นราคาที่แสนแพง วันหนึ่งโลกก็ถูกน้ำท่วม ทุกคนต่างล้มตาย แต่..."กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...โลกเคยสวยงาม" คือประโยคปิดท้ายของปู่

จากงานเขียนที่ไม่ได้จบลงอย่างมีความสุข แต่ได้สร้างความตระหนักภึงภัยของภาวะโลกร้อน และนุ่นก็ได้รับโอกาสให้เข้าร่วมงาน International IMPAC Dublin Literary Award ที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ พร้อมทั้งมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และพูดคุยกับ ไมเคิล โธมัส (Michael Thomas) นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งชนะรางวัลการประกวดหนังสือในงานดังกล่าวประจำปี 2552 ด้วย โดยน้องจากนุ่นแล้วยังมีเยาวชนที่ชนะเลิศการประกวดเขียนเรียงความจากประอีก 3 ประเทศเข้าร่วมคือ สาธารณรัฐเช็ก มาเลเซียและสหรัฐฯ

"นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่าโลกถูกทำลายอย่างไร เราได้รับผลร้ายอย่างไร และเราก็รู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นจะส่งผลร้ายอย่างไร หวังว่าคนที่รู้อยู่แล้วจะได้ตระหนักถึงความสำคัญของโลก และให้โลกอยุ่ต่อไปได้นานๆ" นุ่นสรุปถึงข้อคิดจากนิทานความยาว 1,200 คำ
น.ส.ปภาวี เล็กสกุลดิลก หรือนุ่น  และคุณพ่อ
เด็กๆ และผู้ปกครองที่มาฟังนุ่นเล่าประสบการณ์และนิทานเกี่ยวกับโลกร้อน
กำลังโหลดความคิดเห็น