นักวิจัยสหรัฐฯ พบเชื้อไวรัส XMRV ในผู้ป่วยโรคเหนื่อยล้าเรื้อรังมากกว่าครึ่ง สงสัยอาจเป็นต้นเหตุให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จนร่างกายอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง ทั่วโลกถูกโรคนี้คุกคามแล้วกว่า 17 ล้านคน ปัจจุบันยังไร้หนทางรักษา รุนแรงถึงขั้นเป็นโรคปลอกประสาทอักเสบได้ เชื่ออาจมีส่วนก่อโรคในผู้ป่วยเอดส์
ทีมวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute), คลีฟแลนด์คลินิก (Cleveland Clinic) และ สถาบันไวท์มอร์ ปีเตอร์สัน (Whittemore Peterson Institute) มลรัฐเนวาดา สหรัฐฯ ค้นพบเชื้อไวรัสที่อาจเป็นสาเหตุของโรคเหนื่อยล้าเรื้อรัง หรือซีเอฟเอส (chronic fatigue syndrome: CFS) และหวังเห็นทางรักษาผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าวกว่า 17 ล้านคนทั่วโลก โดยได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยครั้งนี้ลงในวารสารไซน์ (Science)
จูดี ไมโควิตส์ (Judy Mikovits) จากสถาบันไวท์มอร์ ปีเตอร์สัน และนักวิจัยในทีม แยกไวรัสเอ็กซ์เอ็มอาร์วี (XMRV) ได้จากเลือดของผู้ป่วยที่มีอาการโรคเหนื่อยล้าเรื้อรังจำนวน 68 คน จากทั้งหมด 101 คน ซึ่งทีมวิจัยเชื่อว่าไวรัสดังกล่าวอาจมีความเกี่ยวข้องกับโรคเหนื่อยล้าเรื้อรัง และยังพบไวรัสชนิดเดียวกันนี้ในคนปกติที่มีสุขภาพดี 8 คน จาก 218 คน หรือราว 3.7% ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าในสหรัฐฯ มีคนสุขภาพดีที่ได้รับเชื้อชนิดนี้เข้าไปแล้วหลายล้านคน
อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ระบุว่า ขณะนี้นักวิจัยเร่งศึกษาต่อไปเพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าไวรัสเอ็กซ์เอ็มอารวีเป็นสาเหตุของโรคซีเอฟเอสโดยตรงหรือไม่ หรือยังมีเชื้อไวรัสตัวอื่นเกี่ยวข้องกับโรคนี้ด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าและหาทางรักษาผู้ป่วยต่อไป และอาจเป็นไปได้ว่าไวรัสเอ็กซ์เอ็มอาร์วี เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโรคบางชนิด เช่น โรคเอดส์ระยะกลาง
ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (U.S. Centers for Disease Control and Prevention) ระบุว่าโรคซีเอฟเอส ไปมีผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง และเป็นเหตุให้ร่างกายสูญเสียความสามารถ อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง นอกจากนั้นผู้ป่วยยังอาจสูญเสียความทรงจำได้ เกิดอาการเจ็บปวดที่บริเวณข้อต่อและกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองอ่อนแอ และเจ็บคอ
ผู้ป่วยจะมีอาการเหล่านี้นานประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และสามารถพัฒนาไปสู่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากโรคปลอกหุ้มประสาทอักเสบ (multiple sclerosis) และโรคไขข้ออักเสบ (rheumatoid arthritis) ได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคซีเอฟเอสโดยตรง แต่การบำบัดรักษาเกี่ยวกับพฤติกรรมและกระบวนการรับรู้สามารถช่วยให้ผู้ป่วยต่อสู้กับความพิการที่อาจเป็นผลจากโรคซีเอฟเอสได้
ทั้งนี้ ไวรัสเอ็กซ์เอ็มอาร์วีจัดอยู่ในกลุ่มรีโทรไวรัส (retrovirus) เช่นเดียวกับเชื้อเอชไอวี (HIV) สาเหตุของโรคเอดส์ ซึ่งไวรัสในกลุ่มนี้จะมีอาร์เอ็นเอเป็นสารพันธุกรรม โดยมันจะคัดลอกสารพันธุกรรมของมันให้เป็นดีเอ็นเอและเข้าไปแทรกในดีเอ็นเอของเซลล์เจ้าบ้านที่มันอาศัยอยู่
นอกจากนั้น เอพียังให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยที่ระบุว่าไวรัสเอ็กซ์เอ็มอาร์วีเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรลูคีเมียในหนู (mouse leukemia) แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าหนูติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้อย่างไร และอีกงานวิจัยหนึ่งพบว่ามีไวรัสชนิดนี้แฝงอยู่ในมะเร็งต่อมลูกหมากราว 1 ใน 4 ของตัวอย่างมะเร็งต่อมลูกหมาก เทียบกับตัวอย่างต่อมลูกหมากที่ไม่เป็นมะเร็ง พบมีไวรัสดังกล่าวราว 6%.