เนคเทคส่งมอบ "อินเวอร์เตอร์แอร์" ฝีมือคนไทยตัวแรก ให้ผู้ประกอบการผู้ลงทุนวิจัย ช่วยแอร์ประหยัดไฟมากกว่ามาตรฐานเบอร์ 5 ถึง 40 % ด้านผู้ผลิตระบุไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่คนไทยก็ไม่เคยเข้าถึง จึงต้องพัฒนาเอง และพร้อมถ่ายทอดให้คนไทยด้วยกันเอง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เป็นประธานส่งมอบชุด "อินเวอร์เตอร์สัญชาติไทย" ให้นายสมยศ กีรติชีวนันท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บิทไว้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 2 เม.ย.52 ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยชุดอินเวอร์เตอร์ดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และบริษัท บิทไว้ส์ ในการพัฒนาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี
นายสมยศกล่าวระหว่างแถลงข่าว ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เข้าร่วมด้วยว่า เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศนั้นไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ และพบได้ในเครื่องปรับอากาศของบริษัทต่างชาติ แต่เทคโนโลยีดังกล่าว ไม่ได้ถ่ายทอดมายังบริษัทของคนไทย จึงได้ร่วมกับทางเนคเทคเพื่อพัฒนาชุดอินเวอร์เตอร์นี้ขึ้น โดยลงทุนทำวิจัย 600,000 บาท ซึ่งเทคโนโลยีที่ได้นี้จะถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการไทยผ่านทางกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ระบบอินเวอร์เตอร์ (inverter) เป็นระบบควบคุมการทำงานที่ช่วยปรับความเร็วรอบคอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเครื่องปรับอากาศทั่วๆ ไปที่ไม่มีอินเวอร์เตอร์ คอมเพรสเซอร์จะทำงานเป็นรอบๆ แบบเปิด-ปิดเมื่อความเย็นถึงจุดที่ต้องการ แต่ระบบอินเวอร์เตอร์สามารถเร่งและลดความเร็วคอมเพรสเซอร์ จึงไม่ต้องเปิด-ปิดการทำงาน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานในการเริ่มการทำงานใหม่ของคอมเพรสเซอร์ ช่วยให้เกิดการใช้กระแสไฟต่ำแต่ได้พลังงานออกมาสูง และลดกำลังไฟฟ้าที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"โดยรวมแล้วอินเวอร์เตอร์ของเราช่วยประหยัดไฟกว่ามาตรฐานเบอร์ 5 ในปัจจุบันได้ประมาณ 35% และประหยัดไฟกว่าแอร์ทั่วไป 40% ซึ่งอินเวอร์เตอร์จะช่วยให้เครื่องเดินเรื่อยๆ ไม่ต้องเดินแล้วหยุดๆ ซึ่งจะช่วยประหยัดไฟได้ ทั้งนี้ราคาของแอร์ในส่วนอินเวอร์เตอร์จะแพงกว่าแอร์ทั่วไปประมาณ 2,000 บาท" นายสมยศกล่าว
ทั้งนี้เครื่องปรับอากาศของบริษัทยี่ห้อ "ทาซากิ” (Tasaki) รุ่นที่มีอินเวอร์เตอร์จะเริ่มทำตลาดได้ในเดือน พ.ค.นี้
ด้าน ดร.คุณหญิงกัลยากล่าวแสดงความยินดีระหว่างแถลงข่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศของไทยที่มีกว่า 100 บริษัทนั้นเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยมีมูลค่าการส่งออกเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นถึง 93,878 ล้านบาท โดยเอกชนไทยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% นับว่ายังมีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับเอกชนไทยอีกมาก.