สนช.ประกาศ 10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม '51 "บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ" คว้ารางวัลอันดับหนึ่ง โดยเป็น 1 ในธุรกิจที่ตรงตามยุทธศาสตร์สำนักงาน ด้านผู้ผลิตเผยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ได้หลากหลาย แต่ยังใส่ของร้อนไม่ได้ และตอนนี้ยังไม่สามารถลดต้นทุนได้ ต้องทำการตลาดโดยเน้นจุดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ประกาศผลการเลือก "10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม" (Top Ten Innovative Business 2008) ประจำปี 2551 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ณ โรงแรมสยามซิตี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.51 โดยมี ดร.สุจินดา โชติพานิช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นประธานในงานดังกล่าว ซึ่งมีสื่อมวลชนรวมทั้งผู้จัดการวิทยาศาสตร์และผู้ร่วมงานอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ ดร.ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า การคัดเลือก ๑๐ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมนี้ คัดเลือกผลงานจากโครงการที่ สนช. ได้ให้การสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้น 335 โครงการ คิดเป็นวงเงินการสนับสนุนกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งในปี 2551 นี้ได้สนับสนุนโครงการนวัตกรรม 83 โครงการ ด้วยวงเงินสนับสนุน 49.6 ล้านบาท โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกคือ 1.เป็นธุรกิจใหม่ 2.สนับสนุนด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น 3.มีศักยภาพในตลาดโลก 4.บริหารจัดการองค์กรที่ดี 5.ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และ 6.ก่อให้เกิดกระแสตื่นตัวด้านนวัตกรรม

สำหรับธุรกิจนวัตกรรมที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประจำปี 2551 คือ "บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ PLA" ของบริษัท โพลีแมททีเรียลเทคโนโลยี จำกัด ในเครือบริษัท ซีพีพีพี จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับคะแนนจากการตัดสินคัดเลือก 93.8 คะแนน และเป็นโครงการตรงตามยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศ ที่่สำนักงานนวัตกรรมให้การส่งเสริม
ทางด้าน นางชมพูนุท บุพศิริ รองผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท ซีพีพีพี จำกัด (มหาชน) กล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ทางบริษัทได้วิจัยและพัฒนาการขึ้นรูปพลาสติกชีวภาพมาตั้งแต่ปี 2550 ก่อนที่จะขอรับการสนับสนุนโครงการจาก สนช. โดยมีการลงทุนเป็นมูลค่านับล้านบาท ทั้งนี้ได้นำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพพีแอลเอ (PLA) จากต่างประเทศ ซึ่งใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบตั้งต้น แล้วนำมาปรับปรุงสูตรด้วยการผสมสารอินทรีย์เพื่อเพิ่มความนุ่มเหนียวและยืดหยุ่นให้กับเม็ดพลาสติก โดยสารจากธรรมชาติ อาทิ แคลเซียมคาร์บอเนต แป้งมันสำปะหลัง เป็นต้น
"ก่อนหน้านี้โรงงานขึ้นรูปเม็ดพลาสติกจากปิโตรเลียมอยู่แล้ว และได้ปรับปรุงเครื่องจักรที่มีอยู่ขึ้นรูปเม็ดพลาสติก ตอนนี้เราขึ้นเป็นบรรจุภัณฑ์ต่างๆ อาทิ แก้ว บรรจุภัณฑ์อาหาร ถุงพลาสติก รวมทั้งบัตรพลาสติกต่างๆ เป็นต้น แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังทนความร้อนแค่ 40 องศาเซลเซียส ส่วนการทำตลาดเรายังไม่สามารถลดราคาเพื่อสู้กับพลาสติกทั่วไปได้ เนื่องจากยังไม่สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า ยังต้องอาศัยการสร้างภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมในการทำตลาด" นางชมพูนุทกล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์

สำหรับธุรกิจนวัตกรรมอื่นๆ ที่ได้รับการคัดเลือก ได้แก่
อันดับ 2 สบู่อินทรีย์มาตรฐานโลก "กู๊ดเกรซ" (Good Grace) ของบริษัท เชียงใหม่ ออร์แกนนิค แอนด์ สปา จำกัด ซึ่งเป็นสบู่ที่ได้จากวัตถุดิบซึ่งผลิตและปลูกด้วยมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ "ไบโออะกรีเซอร์ท" (BioAgriCert) จากประเทศอิตาลี ได้รับ 91.8 คะแนน โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัททุกชนิดเน้นผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์

อันดับ 3 อนุภาคซิงค์ออกไซด์นาโนสำหรับสิ่งทอและเครื่องสำอาง ของบริษัท นาโน แมททีเรียลส์ เทคโนโลยี จำกัด ได้ 91.4 คะแนน โดยธุรกิจดังกล่าวมีความเป็นนวัตกรรม โดยอาศัยเทคโนโลยีสเปรย์ไพโรไลซิสที่สามารถผลิตอนุภาคซิงค์ออกไซด์ขนาด 20-40 นาโนเมตร ซึงได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการจากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

อันดับ 4 สเต็มเซลล์จากฟันน้ำนม “ไบโอ อีเดน” ของบริษัท ไบโออีเดน เอเชีย จำกัด (มหาชน) ได้ 89 คะแนน ซึ่งบริษัทได้ดำเนินธุรกิจในการจัดเก็บสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนมและฟันคุด ซึ่งพบว่าในเซลล์เนื้อฟัน (dental pulp) มีสเต็มเซลล์ชนิดมีเซ็นไคมอล (mesenchymal stem cells) ที่สามารถพัฒนาไปเป็นอวัยวะต่างๆ ได้

อันดับ 5 พาหนะส่วนบุคคล 2 ล้อฝีมือคนไทย "ไอ-โม" (I-MO) ของบริษัท ไอ-โมบิลิตี้ จำกัด ได้ 88 คะแนน ทั้งนี้พาหนะดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ยานพาหนะสองล้อแบบทรงตัวเองอัตโนมัติ วัดความเอียงด้วยเซนเซอร์ ควบคุมและสั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ฝังตัว ซึ่งส่งคำสั่งไปยังมอเตอร์ที่ล้อทั้งสองทำให้รับรู้คำสั่งการเคลื่อนที่ของผู้ขับขี่ โดยการโน้มตัวไปข้างหน้าเป็นการเร่งความเร็ว และโน้มตัวไปข้างหลังเพื่อหยุดรถ ใช้พลังงานจากแบตตอรีที่ขับขี่ได้ 30 กิโลเมตรต่อการประจุไฟ 1 ครั้ง

อันดับ 6 “อาหารเสริมดีเอชเอ (DHA) จากสาหร่ายขาวสกัดบำรุงสมอง ของบริษัท เมษา คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ควอลิค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท สิทธิพรสมุนไพร จำกัด ได้ 86.8 คะแนน ทั้งนี้เป็นธุรกิจที่ผลิตผลิตกรดโดโคซะเฮกซะโนอิกหรือดีเอชเอ (Docosahexanoic: DHA) จากสาหร่ายขาว เพื่อผลิตอาหารสำหรับมนุษย์และสัตว์

อันดับ 7 อ่างอาบน้ำอัจฉริยะ "ไอ-สปา” ของบริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด ได้ 85 คะแนน ซึ่งเป็นอ่างอาบน้ำที่ใช้อะครีลิกโปร่งแสงเพื่อให้แสงจากหลอดแอลอีดี (LED) ส่องผ่าน โดยสามารถควบคุมรูปแบบของแสง และมีการใช้เซนเซฮร์แบบสัมผัสเพื่อควบคุมและสั่งการทำงานของระบบอ่างอาบน้ำ

อันดับ 8 เครื่องสำอางจากผงไหม "โอซิริส" (Osiris) ของบริษัท เนเจอร์แม๊กส์ จำกัด ได้ 83.6 คะแนน ซึ่งใช้ผงไหมซิริซิน (Sericin) ที่ผ่านกระบวนการสกัดด้วยความร้อนและทำแห้ง (Spray Dry) และฆ่าเชื้อด้วยรังสีจากสถาบันเทคโนโลยีนิเคลียร์แห่งชาติ (สทน.)

อันดับ 9 สารชีวภาพเคลือบผิวผลไม้ “เค.ยู. แวกซ์” ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.ยู. แว๊กซ์ ได้ 82 คะแนน ผลิตสารเคลือบผิวผลไม้จากยางครั่งและสารช่วยเพิ่มความคงตัว และใช้เทคโนโลยีอีมัลชันในการผสมเพื่อให้ส่วนประกอบมีความหนืดและมีความคงตัวเหมาะสม ไม่แยกชั้น และมีคุณสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่านสำหรับก๊าซและไอน้ำ เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำหนักจากการคายน้ำแลลดการหายใจของผล

อันดับ 10 ปุ๋ยชีวภาพมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ "ภูตะวัน" ของบริษัท ภูธนเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด ได้ 81.4 คะแนน เป็นปุ๋ยชีวภาพจากเชื้อจุลินทรีย์กลุ่มตรึงไนโตรเจนได้อย่างอิสระ
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ประกาศผลการเลือก "10 สุดยอดธุรกิจนวัตกรรม" (Top Ten Innovative Business 2008) ประจำปี 2551 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ณ โรงแรมสยามซิตี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.51 โดยมี ดร.สุจินดา โชติพานิช ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นประธานในงานดังกล่าว ซึ่งมีสื่อมวลชนรวมทั้งผู้จัดการวิทยาศาสตร์และผู้ร่วมงานอย่างคับคั่ง
ทั้งนี้ ดร.ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า การคัดเลือก ๑๐ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมนี้ คัดเลือกผลงานจากโครงการที่ สนช. ได้ให้การสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้น 335 โครงการ คิดเป็นวงเงินการสนับสนุนกว่า 350 ล้านบาท ซึ่งในปี 2551 นี้ได้สนับสนุนโครงการนวัตกรรม 83 โครงการ ด้วยวงเงินสนับสนุน 49.6 ล้านบาท โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกคือ 1.เป็นธุรกิจใหม่ 2.สนับสนุนด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น 3.มีศักยภาพในตลาดโลก 4.บริหารจัดการองค์กรที่ดี 5.ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และ 6.ก่อให้เกิดกระแสตื่นตัวด้านนวัตกรรม
สำหรับธุรกิจนวัตกรรมที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประจำปี 2551 คือ "บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ PLA" ของบริษัท โพลีแมททีเรียลเทคโนโลยี จำกัด ในเครือบริษัท ซีพีพีพี จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้รับคะแนนจากการตัดสินคัดเลือก 93.8 คะแนน และเป็นโครงการตรงตามยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศ ที่่สำนักงานนวัตกรรมให้การส่งเสริม
ทางด้าน นางชมพูนุท บุพศิริ รองผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท ซีพีพีพี จำกัด (มหาชน) กล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ทางบริษัทได้วิจัยและพัฒนาการขึ้นรูปพลาสติกชีวภาพมาตั้งแต่ปี 2550 ก่อนที่จะขอรับการสนับสนุนโครงการจาก สนช. โดยมีการลงทุนเป็นมูลค่านับล้านบาท ทั้งนี้ได้นำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพพีแอลเอ (PLA) จากต่างประเทศ ซึ่งใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบตั้งต้น แล้วนำมาปรับปรุงสูตรด้วยการผสมสารอินทรีย์เพื่อเพิ่มความนุ่มเหนียวและยืดหยุ่นให้กับเม็ดพลาสติก โดยสารจากธรรมชาติ อาทิ แคลเซียมคาร์บอเนต แป้งมันสำปะหลัง เป็นต้น
"ก่อนหน้านี้โรงงานขึ้นรูปเม็ดพลาสติกจากปิโตรเลียมอยู่แล้ว และได้ปรับปรุงเครื่องจักรที่มีอยู่ขึ้นรูปเม็ดพลาสติก ตอนนี้เราขึ้นเป็นบรรจุภัณฑ์ต่างๆ อาทิ แก้ว บรรจุภัณฑ์อาหาร ถุงพลาสติก รวมทั้งบัตรพลาสติกต่างๆ เป็นต้น แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้ยังทนความร้อนแค่ 40 องศาเซลเซียส ส่วนการทำตลาดเรายังไม่สามารถลดราคาเพื่อสู้กับพลาสติกทั่วไปได้ เนื่องจากยังไม่สามารถลดต้นทุนได้มากกว่า ยังต้องอาศัยการสร้างภาพลักษณ์ด้านสิ่งแวดล้อมในการทำตลาด" นางชมพูนุทกล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์
สำหรับธุรกิจนวัตกรรมอื่นๆ ที่ได้รับการคัดเลือก ได้แก่
อันดับ 2 สบู่อินทรีย์มาตรฐานโลก "กู๊ดเกรซ" (Good Grace) ของบริษัท เชียงใหม่ ออร์แกนนิค แอนด์ สปา จำกัด ซึ่งเป็นสบู่ที่ได้จากวัตถุดิบซึ่งผลิตและปลูกด้วยมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ "ไบโออะกรีเซอร์ท" (BioAgriCert) จากประเทศอิตาลี ได้รับ 91.8 คะแนน โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัททุกชนิดเน้นผลิตโดยใช้วัตถุดิบที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
อันดับ 3 อนุภาคซิงค์ออกไซด์นาโนสำหรับสิ่งทอและเครื่องสำอาง ของบริษัท นาโน แมททีเรียลส์ เทคโนโลยี จำกัด ได้ 91.4 คะแนน โดยธุรกิจดังกล่าวมีความเป็นนวัตกรรม โดยอาศัยเทคโนโลยีสเปรย์ไพโรไลซิสที่สามารถผลิตอนุภาคซิงค์ออกไซด์ขนาด 20-40 นาโนเมตร ซึงได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการจากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
อันดับ 4 สเต็มเซลล์จากฟันน้ำนม “ไบโอ อีเดน” ของบริษัท ไบโออีเดน เอเชีย จำกัด (มหาชน) ได้ 89 คะแนน ซึ่งบริษัทได้ดำเนินธุรกิจในการจัดเก็บสเต็มเซลล์จากฟันน้ำนมและฟันคุด ซึ่งพบว่าในเซลล์เนื้อฟัน (dental pulp) มีสเต็มเซลล์ชนิดมีเซ็นไคมอล (mesenchymal stem cells) ที่สามารถพัฒนาไปเป็นอวัยวะต่างๆ ได้
อันดับ 5 พาหนะส่วนบุคคล 2 ล้อฝีมือคนไทย "ไอ-โม" (I-MO) ของบริษัท ไอ-โมบิลิตี้ จำกัด ได้ 88 คะแนน ทั้งนี้พาหนะดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ยานพาหนะสองล้อแบบทรงตัวเองอัตโนมัติ วัดความเอียงด้วยเซนเซอร์ ควบคุมและสั่งการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ฝังตัว ซึ่งส่งคำสั่งไปยังมอเตอร์ที่ล้อทั้งสองทำให้รับรู้คำสั่งการเคลื่อนที่ของผู้ขับขี่ โดยการโน้มตัวไปข้างหน้าเป็นการเร่งความเร็ว และโน้มตัวไปข้างหลังเพื่อหยุดรถ ใช้พลังงานจากแบตตอรีที่ขับขี่ได้ 30 กิโลเมตรต่อการประจุไฟ 1 ครั้ง
อันดับ 6 “อาหารเสริมดีเอชเอ (DHA) จากสาหร่ายขาวสกัดบำรุงสมอง ของบริษัท เมษา คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ควอลิค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท สิทธิพรสมุนไพร จำกัด ได้ 86.8 คะแนน ทั้งนี้เป็นธุรกิจที่ผลิตผลิตกรดโดโคซะเฮกซะโนอิกหรือดีเอชเอ (Docosahexanoic: DHA) จากสาหร่ายขาว เพื่อผลิตอาหารสำหรับมนุษย์และสัตว์
อันดับ 7 อ่างอาบน้ำอัจฉริยะ "ไอ-สปา” ของบริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด ได้ 85 คะแนน ซึ่งเป็นอ่างอาบน้ำที่ใช้อะครีลิกโปร่งแสงเพื่อให้แสงจากหลอดแอลอีดี (LED) ส่องผ่าน โดยสามารถควบคุมรูปแบบของแสง และมีการใช้เซนเซฮร์แบบสัมผัสเพื่อควบคุมและสั่งการทำงานของระบบอ่างอาบน้ำ
อันดับ 8 เครื่องสำอางจากผงไหม "โอซิริส" (Osiris) ของบริษัท เนเจอร์แม๊กส์ จำกัด ได้ 83.6 คะแนน ซึ่งใช้ผงไหมซิริซิน (Sericin) ที่ผ่านกระบวนการสกัดด้วยความร้อนและทำแห้ง (Spray Dry) และฆ่าเชื้อด้วยรังสีจากสถาบันเทคโนโลยีนิเคลียร์แห่งชาติ (สทน.)
อันดับ 9 สารชีวภาพเคลือบผิวผลไม้ “เค.ยู. แวกซ์” ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.ยู. แว๊กซ์ ได้ 82 คะแนน ผลิตสารเคลือบผิวผลไม้จากยางครั่งและสารช่วยเพิ่มความคงตัว และใช้เทคโนโลยีอีมัลชันในการผสมเพื่อให้ส่วนประกอบมีความหนืดและมีความคงตัวเหมาะสม ไม่แยกชั้น และมีคุณสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่านสำหรับก๊าซและไอน้ำ เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำหนักจากการคายน้ำแลลดการหายใจของผล
อันดับ 10 ปุ๋ยชีวภาพมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ "ภูตะวัน" ของบริษัท ภูธนเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด ได้ 81.4 คะแนน เป็นปุ๋ยชีวภาพจากเชื้อจุลินทรีย์กลุ่มตรึงไนโตรเจนได้อย่างอิสระ