หลังเป็นเดือดเป็นร้อนออกมาแจง มว.ไม่ได้สั่งปรับมาตรฐานเวลาไทย 30 นาที ตามข้อมูลฟอร์เวิร์ดเมลลวง พร้อมขู่มือฟอร์เวิร์ดอาจเข้าข่ายผิด "พรบ.คอมพิวเตอร์” แต่ล่าสุดโยนให้เป็นหน้าที่ "ไอซีที” หาคนผิด แจงมาตรวิทยามีหน้าที่แค่ให้ข่าวที่ถูกต้อง ส่วนหน่วยงานไหนมีกฎหมายในมือก็ให้รับผิดชอบไป
สร้างความฮือฮาและเป็นที่วิพากษ์-วิจารณ์พอสมควรสำหรับฟอร์เวิร์ดเมลที่ระบุว่า "สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ” (มว.) เตรียมปรับเวลามาตรฐานของประเทศไทยให้เร็วขึ้น 30 นาที พล.อ.ต.เพียร โตท่าโรง ผู้อำนวยการ มว.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงจึงได้ออกโรงชี้แจงไปเมื่อ 2-3 เดือนก่อนว่าไม่เป็นความจริง พร้อมระบุด้วยว่า ผู้ที่ให้ข้อมูลในฟอร์เวิร์ดเมลลวงดังกล่าว ถือเป็นการให้ข้อมูลเท็จ และทำให้ประชาชนตื่นตะหนก ซึ่ง ข้าข่ายกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพล.อ.ต.เพียร ระบุไว้เมื่อครั้งแถลงข่าวชี้แจงว่า ทาง มว.กำลังอยู่ระหว่างปรึกษากับนิติกร ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
ล่าสุดผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้สอบถามถึงความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวว่า มว.ดำเนินการถึงขั้นใดแล้ว ในการดำเนินการต่อผู้ให้ข้อมูลฟอร์เวิร์ดเมลดังกล่าวและอาจเข้าข่ายกระทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่ง พล.อ.ต.เพียร ได้ตอบกลับมาว่า ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพราะ มว.ไม่มีอำนาจทางกฎหมาย แม้จะเป็นเจ้าทุกข์ในเรื่องดังกล่าวก็ตาม ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอซีที ซึ่งมีกฎหมาย พรบ.ดังกล่าวอยู่
“เรื่องค่อนข้างลำบาก ตามกันยาก เพราะเป็นการตามทางเทคโนโลยี ให้ไอซีทีเป็นผู้รับผิดชอบ พรบ.อยู่หน่วยไหน หน่วยนั้นก็รับผิดชอบไป ผิดหรือไม่ผิด ผู้ถือกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ กระทรวงไอซีทีต้องเป็นผู้รับผิดชอบ มาตรวิทยาเราไม่มี พรบ.ไปจับใคร หน้าที่เราคือให้ความรู้ เมื่อสังคมได้รับข่าวลือ ข่าวผิดๆ เราก็ให้ข่าวที่ถูกต้อง เราก็แค่แก้ข่าวที่ถูกต้องแก่สังคม” พล.อ.ต.เพียรให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้จัดการวิทยาศาสตร์
