ออก "ฉลากประสิทธิภาพสูง" ติดอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนเปิดตัว "ฉลากประสิทธิภาพสูง" ติดให้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ประเดิม "เตาแก๊ส" ที่ใช้หุงต้มตามบ้านเรือนและ "วีเอสดี" อุปกรณ์ปรับความเร็วมอเตอร์ให้เหมาะแก่การใช้งาน พร้อมเตรียมมาตรการ ห้ามใช้อุปกรณ์สิ้นเปลืองพลังงาน ที่นำเข้าจากต่างประเทศ

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดตัว "ฉลากประสิทธิภาพสูง" สำหรับอุปกรณ์ใช้พลังงานที่ไม่ใช้ไฟฟ้า โดยนำร่องใช้กับเตาแก๊สความดันต่ำ ซึ่งใช้ภายในครัวเรือน และอุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์หรือวีเอสดี (VSD) ซึ่งใช้ควบคุมความเร็วมอเตอร์ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อลดการใช้พลังงานเกินจำเป็น โดยได้จัดงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 24 ก.ค.51 ณ โรงแรมทวินทาวเวอร์

ดร.พานิช พงศ์พิโรฒ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน อธิบายกับผู้จัดวิทยาศาสตร์และสื่อมวลชนอื่นๆ ภายหลังเปิดงานว่า มาตรการติดฉลากประสิทธิภาพสูงนี้ เป็นมาตรการเชิงสมัครใจ ไม่ใช่การบังคับ

ทั้งนี้จากการศึกษาอุปกรณ์ใช้พลังงานต่างๆ 52 ชนิดนั้น มี 42 ชนิดที่เหมาะจะส่งเสริมให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และในจำนวนที่เหมาะสมนั้นเป็นอุปรณ์ที่ใช้ไฟฟ้า 31 ชนิดซึ่งมีมาตรการ "ฉลากเบอร์ 5" รองรับอยู่แล้ว

สำหรับ 11 ชนิดที่เหลือนั้น แบ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื้อเพลิง 6 ชนิดได้แก่ รถยนต์ จักรยานยนต์ เตาแก๊ส เครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์เบนซินและหม้อต้มน้ำร้อนแบบใช้แก๊ส นอกจากนั้นอีก 5 ชนิดเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยประหยัดพลังงานได้และไม่ใช้ไฟฟ้า ได้แก่ กระจก อุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์หรือวีเอสดี โคมไฟประสิทธิภาพสูง บัลลาสต์และฉนวนใยแก้ว

"จากการศึกษาพบว่า เตาแก๊สและวีเอสดีมีศักยภาพที่จะส่งเสริมการติดฉลากประสิทธิภาพสูง สำหรับเตาแก๊สนั้นจากการศึกษาและสุ่มตรวจ รวมไปถึงการหารือกับผู้ผลิต ผู้บริโภคและนักวิชาการก็ได้ข้อสรุปว่า เตาแก๊สที่มีประสิทธิภาพในเชิงความร้อน 53% ขึ้นไป จะได้รับฉลากประสิทธิภาพสูง โดยเราจะให้ฉลากประสิทธิภาพสูงเพียง 20% ของอุปกรณ์ชนิดนั้นๆ ในตลาด เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เราก็จะขยับมาตรฐานขึ้นไป ต่อไปอาจเป็น 55-56% ก็ได้" ดร.พานิชกล่าว

ดร.พานิชเปิดเผยด้วยว่า โดยปกติเตาแก๊สจะต้องมีประสิทธิภาพในเชิงความร้อนตามมาตรฐานสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) 40% และจากการการเปิดตัวฉลากประสิทธิภาพสูงครั้งนี้ จะได้ขยายไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ภายในปี 2554 ได้แก่ รถยนต์ จักรยานยนต์ เตาแก๊ส เครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์เบนซิน และหม้อต้มน้ำร้อนแบบใช้แก๊ส ซึ่งหากทำสำเร็จจะช่วยประหยัดการใช้พลังงานลงได้ 14,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ พพ.ได้มอบหมายให้โครงการที่ปรึกษาทางวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหน่วยงานในการดำเนินการเพื่อตรวจสอบมาตรฐานให้กับอุปกรณ์ที่เสนอขอรับฉลากประสิทธิภาพสูง โดยนายบรรยงวุฒิ จุลละโพธิ หัวหน้าโครงการที่ปรึกษาทางวิศวกรรมและรองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายขั้นตอนในการขอรับฉลากประสิทธิภาพสูงว่า ผู้ประกอบการสามารถติดต่อไปยัง พพ.หรือมหาวิทยาลัยมหิดลได้โดยตรง พร้อมทั้งส่งอุปกรณ์ตัวอย่างที่จะขอติดฉลากเพื่อนำไปทดสอบด้วย

ในกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเตาแก๊สนั้น หัวหน้าโครงการที่ปรึกษาทางวิศวกรรมจากมหิดลอธิบายว่า เริ่มต้นจะตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ ของเตาแก๊ส 10 จุดเพื่อจำแนกรุ่น จากนั้นทดสอบต้มน้ำเพื่อคำนวณหาประสิทธิภาพเชิงความร้อน โดยมาตรฐานแล้วจะดูการใช้ความร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิขึ้นไป 50 องศาเซลเซียส กระบวนการดังกล่าวจะทำซ้ำ 3 ครั้ง ใช้เวลาทั้งหมดราว 2-3 ชั่วโมง

"ขณะนี้มีผู้ประกอบการติดต่อขอรับฉลากประสิทธิภาพสูงทั้งหมด 10 บริษัท ซึ่งส่งเตาแก๊สมาทดสอบรวมทั้งสิ้นประมาณ 150 รุ่น ส่วนการทดสอบอุปกรณ์ปรับความเร็วรอบมอเตอร์หรือวีเอสดีนั้นมีผู้ส่งอุปกรณ์มาขอติดฉลากแค่ 1-2 บริษัท โดยต้นเดือน ส.ค.นี้ก็จะสามารถทดสอบอุปกรณ์ทั้งหมดได้และจะส่งผลให้ทาง พพ.เพื่ออนุมัติฉลากต่อไป" นายบรรยงวุฒิแจกแจงกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์

อย่างไรก็ดี ดร.พานิช ชี้ว่าในบรรดาอุปกรณ์ที่ได้รับฉลากประสิทธิภาพสูงนั้น ก็มีประสิทธิภาพที่ไม่เท่ากัน จึงอยากให้ผู้บริโภคอ่านฉลากให้ละเอียด และเปรียบเทียบว่าราคาที่กว่ากับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นด้วยนั้นมีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ ทั้งนี้ไม่เพียงแค่ดูว่ามีฉลากหรือไม่แต่อยากให้บริโภคอ่านอย่างละเอียดด้วย

นอกจากมาตรฐานขั้นสูงซึ่งเป็นมาตรการเชิงสมัครใจนั้น ดร.พานิชกล่าวว่า ทาง พพ.ยังจะกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำในการใช้พลังงาน ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงการห้ามใช้สินค้าจากต่างประเทศซึ่งไม่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน โดยจะได้กำหนดเป็นกฎกระทรวงต่อไปด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอติดฉลากประสิทธิภาพสูง ติดต่อได้ที่
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)
เลขที่ 17 ถ.พระราม 1 (เชิงสะพานกษัตริย์ศึก) แขวงยศเส เขตปทุมวัน กทม. 10330
โทรสาร 0-2226-1471 โทร. 0-2223-0021-9, 00-2226-3353

โครงการที่ปรึกษาทางวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
25/25 ถ.พุทธมณฑล สาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
โทรสาร 02889-2138 ต่อ 6438
โทร.0-2889-2138 ต่อ 6439