เครือข่ายประชาชน 518 องค์กร กลุ่ม 94 นักวิชาการ กรีนพีซ และสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย ยืนยันบุกทำเนียบรัฐบาลต่อเนื่อง พร้อมยื่นจดหมายระบุชื่อ “ระพี สาคริก” ถึงนายกรัฐมนตรีพิจารณายับยั้งความพยายามผลักดันการทดสอบพืชจีเอ็มโอในแปลงเปิด ชี้ หากมีมติอนุมัติออกมาจะฟ้องศาลปกครองดำเนินคดีทันที
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ธ.ค.ผู้แทนกว่า 50 คนจากเครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม 518 องค์กร เครือข่าย 94 นักวิชาการ สมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย และกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ชุมนุมกันด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านความพยายามล้มเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) 3 เม.ย.2544 ที่ห้ามไม่ให้มีการทดลองพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ในระดับแปลงเปิด ซึ่งคาดว่าจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันนี้
ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ส่งจดหมายเปิดผนึกจำนวน 4 ฉบับ จ่าหน้าถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณายับยั้งความพยายามดังกล่าวด้วย โดยมีชื่อ ศ.ระพี สาคริก อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหนึ่งในรายชื่อผู้คัดค้านดังกล่าว ซึ่ง นายคณิสร เมืองเนาว์ นิติกรศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เป็นผู้รับเรื่องเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เรียกร้องให้ นายคณิสร ส่งจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวถึง พล.อ.สุรยุทธ์ โดยตรง ไม่ให้ส่งจดหมายเปิดผนึกดังกล่าวไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นกระทรวงที่มีความพยายามผลักดันเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมจนกว่าจะมีมติ ครม.ออกมาในช่วงบ่าย
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ตัวแทนเครือข่าย 94 นักวิชาการ เรียกร้องในฐานะกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ต้องการให้รัฐบาลทบทวนความพยายามผลักดันให้มีการทดสอบพืชจีเอ็มโอระดับแปลงเปิดอีกครั้ง ซึ่งมีตัวอย่างการปนเปื้อนในแปลงปลูกของเกษตรกรในอดีตมาแล้วถึง 2 ครั้ง คือ ฝ้ายบีทีในปี 2542 และมะละกอจีเอ็มโอในปี 2547 ที่จนบัดนี้ยังไม่อาจหาคำตอบให้แก่สังคมได้
ทางกลุ่มยืนยันด้วยว่า หากจะให้มีการทดสอบแปลงเปิดจริงควรมีการจัดทำพระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพหรือไบโอเซฟตี้ก่อน แต่หากมีการอนุมัติใดๆ ออกมาในขณะนี้ ทางเครือข่ายยืนยันจะฟ้องศาลปกครองให้ยุติการทดลองทันที และจะเดินหน้าคดีความทั้งทางแพ่งและอาญาหากพบการปนเปื้อนในธรรมชาติ
ส่วน นายวัลลภ พิชญ์พงศา นายกสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสมาคมถือเป็นกรณีที่ต่างจากทั่วไปสำหรับองค์กรที่ดำเนินการทางธุรกิจ แต่หากมีมติให้ทดสอบพืชจีเอ็มระดับแปลงเปิดจริงย่อมส่งผลถึงการส่งออกพืชผลไทย เพราะต่างชาติจะไม่ยอมรับพืชจีเอ็ม อีกทั้งจะส่งผลถึงพืชผลอื่นๆ ด้วย เนื่องจากยากที่จะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าพืชผลนั้นๆ จะไม่ปนเปื้อนพืชจีเอ็มด้วย ที่แม้แต่ประเทศที่มีความก้าวหน้ามากอย่างสหรัฐฯ ก็ยังควบคุมไม่ได้ ดังที่เกิดในกรณีข้าวลิเบอร์ตี้ลิงก์
อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมพบว่ายังจะไม่มีการผลักดันวาระพืชดัดแปลงพันธุกรรมเข้าสู่ที่ประชุมครั้งนี้แต่อย่างใด จึงเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมการชุมนุมไปเป็นการเดินขบวนคัดค้านมติทดลองพืชจีเอ็มในระดับแปลงเปิดรอบทำเนียบรัฐบาลหนึ่งรอบก่อนจะสลายตัวกันในเวลาประมาณ 10.30 น.
