กรีซ คือ ดินแดนที่ให้กำเนิดการแข่งขันกีฬาและกรีฑา เมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนจะมีการแข่งกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกเมื่อ 233 ปีก่อนพุทธกาลที่วิหาร Olympia เพราะชาวกรีกมีขนบธรรมเนียมและความเชื่อว่า กีฬาเป็นกิจกรรมสำคัญที่ทำให้ชีวิตสมบูรณ์ ดังนั้น การศาสนา หรือการศึกษา และวรรณกรรมของกรีกโบราณจึงมีการยกย่องสรรเสริญและชื่นชมผู้ชนะการแข่งขันกีฬายิ่งกว่านักปรัชญาหรือนักการเมืองในสมัยนั้นเสียอีก
ในการศึกษาประวัติความเป็นมาของกีฬาโอลิมปิก นักประวัติศาสตร์ได้อาศัยหลักฐานที่ปรากฏในวรรณคดี ภาพวาด รูปปั้น และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่คนในยุคนั้นเขียนและสร้าง จนกระทั่งรู้วิวัฒนาการกีฬาของกรีกตั้งแต่สมัยกวี Homer จนกระทั่งถึงยุคอาณาจักรโรมันว่า การแข่งกีฬาเริ่มจากการมีพิธีกรรมทางศาสนา เช่น เวลาเด็กหนุ่มต้องการจุดเทียนบูชาเทพเจ้าในวิหารที่อยู่ไกล เขาจะพากันวิ่งแข่งไปจุดเทียนเป็นคนแรก และเมื่อคนที่ชนะมักเป็นคนที่แข็งแรง ผู้คนจึงคิดว่า นี่คือเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นพลังแห่งเทพเจ้า แม้แต่พิธีศพในสมัยโบราณก็มีการแข่งกีฬา เพราะผู้คนเชื่อว่า พลังของผู้เข้าแข่งขันสามารถให้ชีวิตแก่คนที่ตายไปแล้วได้ ประเพณีกีฬาในงานศพนี้ได้มีติดต่อกันจนถึงยุคโรมัน จึงหยุดไป ซึ่งเรื่องนี้ได้มีปรากฏในวรรณกรรม Aeneid ของ Virgil
ในเวลาต่อมานักปรัชญา และนักรบกรีกได้พัฒนากีฬาให้เป็นทั้งกิจกรรมเสริมสุขภาพและเตรียมทหารสำหรับการทำสงครามด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคนกรีกเชื่อว่า กีฬาเป็นกิจกรรมเดียวเท่านั้นที่จะทำให้คนมีร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ ดังนั้น นักเรียนกรีกในสมัยโบราณทุกคนจึงต้องฝึกยิมนาสติก และกรีฑา ซึ่งเป็นวิชาบังคับในการศึกษา อีกทั้งต้องตั้งเป้าหมายว่า เวลาแข่งกีฬา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ชัยชนะ
วรรณกรรม เรื่อง Iliad ของ Homer ได้กล่าวถึง Archilles ว่าก่อนจะยกทัพบุกกรุง Troy Archilles ได้จัดมหกรรมกีฬาเพื่อคารวะต่อ Patroclus ที่ถูกฆ่าตาย โดยให้ทหารในกองทัพ Mycenae เป็นทั้งคนเล่นและคนดู และกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในครั้งนั้น คือ กีฬาแข่งรถศึก ซึ่ง Archilles ได้กำหนดรางวัลสำหรับผู้ชนะเป็นสตรีผู้เลอโฉมและมีฝีมือสูงในงานศิลปะ ส่วนคนที่ได้ตำแหน่งที่สอง จะได้รางวัลเป็นม้าตัวเมียที่ตั้งครรภ์ สำหรับคนที่ได้ที่ 3, 4, 5 รางวัลก็ลดมูลค่าลงตามลำดับ
Homer ได้เริ่มบรรยายการแข่งกีฬาครั้งนั้นโดยให้ Nestor กล่าวให้โอวาทแก่บุตร Antilochus ผู้จะเข้าแข่งรถศึกว่า ปัญญาเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนในทุกขั้นตอน ชัยชนะจะเป็นของคนที่มีแผนชีวิตดีกับใช้สติปัญญาได้ดีเยี่ยม และ Nestor ก็ได้เน้นย้ำให้บุตรชายรู้เทคนิคการบังคับม้าอย่างละเอียด โดยให้จับตาดูทั้งม้าของตนเอง และของคู่ต่อสู้ อีกทั้งสอนเทคนิคการเลี้ยวโค้งและวิเคราะห์เทคนิคบังคับม้าของคู่ต่อสู้ ฯลฯ ถึงจะพร่ำพรรณนาเทคนิควิชาการอย่างละเอียดสักปานใด Nestor ก็ไม่ได้เอ่ยสอนจริยธรรมในการแข่งขันว่า Antilochus ต้องแข่งอย่างยุติธรรม และไม่คดโกงใคร ทั้งนี้เพราะสิ่งที่คนกรีกทุกคนในสมัยนั้นต้องการคือชัยชนะเท่านั้น และความเป็นนักกีฬาไม่มีในระบบความคิดของใครเลย
การแข่งรถศึกครั้งนั้นมีผู้เข้าแข่งขัน 5 คน และทุกคนมีหมายเลขที่ได้จากการจับฉลาก เมื่อได้รับสัญญาณให้ออกรถศึก รถทุกคันจะวิ่งไปเป็นระยะทางหนึ่งแล้ววกกลับมาที่จุดตั้งต้นใหม่ ก่อนเริ่มการแข่งขันสนามวิ่งมีบรรยากาศที่เครียดมาก เพราะผู้เข้าแข่งขันทุกคนกลัวแพ้ Antilochus เองก็ยังเอ่ยกับม้าของตนว่า ถ้าเขาแพ้ Nestor จะเชือดคอม้าเจ้าโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เมื่อม้าถูกขู่เช่นนั้น Homer ก็ได้เขียนบรรยายเสมือนว่าม้ามีความรู้สึก มันจึงควบสุดฝีเท้า และ Antilochus ก็แกล้งบังคับม้าของตนให้วิ่งเสมือนจะพุ่งชนรถม้าศึกคันที่อยู่ข้างหน้า จนคู่ต่อสู้ต้องขยับรถหนี Antilochus จึงชนะ เหตุการณ์นี้ Menelaus แห่ง Lacedaemon ทรงทอดพระเนตรเห็นโดยตลอด จึงตรัสว่า Antilochus แกล้งคู่ต่อสู้ แต่ไม่มีบาป เพราะได้ชัยชนะ และ Homer ก็ได้บรรยายการแข่งรถศึกครั้งนั้นอย่างได้อารมณ์ว่า คนดูซึ่งส่วนมากเป็นทหาร พากันตื่นเต้นและมีการทะเลาะเบาะแว้งกันในระหว่างการดู เมื่อเห็นผู้แข่งขันที่ตนเชียร์กำลังชนะหรือกำลังแพ้
สำหรับการแข่งขันรถศึกระหว่าง Eumelus กับ Diomedes นั้น Homer ได้กล่าวถึงผลของการแข่งขันว่า มีเทพเจ้าเข้ามาเป็นผู้กำหนดคนชนะ เพราะเทพ Apollo ซึ่งโปรดปราน Eumelus ได้ทรงบันดาลให้ Diomedes ทำแส่ม้าหลุดจากมือ ทันทีที่เห็นเหตุการณ์เทพ Athena ซึ่งโปรดปราน Diomedes ก็ทรงบันดาลให้แอกเทียมม้าของ Eumelus หัก ทำให้ Eumelus ถูกเหวี่ยงตกจากรถ มีผลให้ Diomedes เป็นผู้ชนะ Homer ใช้เทพนิยายนี้แสดงให้ผู้อ่านเห็นว่า ความศรัทธาและยึดมั่นในเทพเจ้า จะทำให้ประสบความสำเร็จ และคนธรรมดาถึงจะเก่งสักเพียงใด ถ้าเทพไม่โปรดปราน การชนะก็เป็นไปไม่ได้เลย
นอกจากการแข่งรถศึกแล้ว วรรณกรรม Iliad ยังกล่าวถึงมวย มวยปล้ำ กรีฑา ยิงธนู และการต่อสู้ด้วยอาวุธด้วย ในกีฬามวยนั้น Achilles ได้ตั้งรางวัลชนะเลิศเป็นล่อ 1 ตัว และรองชนะเลิศเป็นเหยือก 1 ใบ และการแข่งขันครั้งนั้นมีการต่อสู้ระหว่าง Euryalus และ Epeius ซึ่งได้ขู่คู่ต่อสู้ก่อนชกว่า ถ้าถูกเขาต่อยเพียงหมัดเดียวจังๆ ก็ให้เพื่อนๆ ของ Euryalus หามศพไปจัดการได้เลย คำขู่นี้มีส่วนจริง เพราะการต่อยมวยในสมัยนั้น นักมวยจะต่อยเฉพาะที่ศีรษะและใบหน้าเท่านั้น และการชกไม่ใช้น้ำหนักนักมวยเป็นเกณฑ์ในการเลือกคนชกเลย ดังนั้น คนที่ตัวเล็กและน้ำหนักตัวน้อยจึงหลีกเลี่ยงกีฬาชนิดนี้ เพราะถ้าขืนขึ้นเวทีเขาก็อาจถูกต่อยชนิดไม่มีกรรมการห้ามจนฟุบตายคาเวทีได้ และในการชกครั้งนั้น Homer ได้บรรยายว่า Epeius ต่อยที่กรามของ Euryalus จนกรามแตกเลือดกบปากและหมดสติไป
สำหรับการแข่งขันมวยปล้ำ ซึ่งเป็นกีฬาที่ชาวกรีกนิยมสูงสุด เพราะเป็นกีฬาที่ทดสอบความแข็งแรง ความเร็ว และความชำนาญ และการตัดสินใจ ซึ่งมีจุดประสงค์หลัก คือ ให้คู่ต่อสู้เสียสมดุลล้มลง ชัยชนะจะเป็นของคนที่ทำให้คู่ต่อสู้ล้ม 3 ครั้ง ในการแข่งมวยปล้ำครั้งนั้น Ajax กับ Ulysses ต้องสู้กันนาน เพราะไม่มีใครล้มใครได้ ในที่สุด Achilles จึงตัดสินให้คนทั้งสองเสมอกัน
ในการแข่งขันต่อไป คือ การแข่งวิ่งเท้าเปล่า ระหว่าง Ulysses, Ajax และ Antilochus ในการแข่งขันนี้ เทพเจ้าก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยอีก เมื่อ Ajax กำลังวิ่งนำ และ Ulysses กำลังวิ่งตาม Ulysses ได้ทูลขอให้เทพธิดา Athena ช่วย โดยขอยืมปีกของนางมาติดที่เท้าของตน และ Athena ก็ทรงประทานให้ เท่านั้นยังไม่พอเทพธิดา Athena ยังดลบันดาลให้ Ajax เมื่อใกล้จะถึงเส้นชัยล้มคว่ำคะมำไม่เป็นท่าอีกด้วย Ulysses จึงได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นถ้วยเงิน
กีฬาต่อสู้ด้วยอาวุธเป็นกีฬาชนิดสุดท้ายที่ Archilles จัดที่ Troy ให้ Ajax กับ Diomedes ต่อสู้กันด้วยหอก และโล่ คนที่ชนะ คือ คนที่ทำร้ายคู่ต่อสู้ ตามปกติการต่อสู้นี้รุนแรง และจริงจังมากจนคนดูได้ลุกขึ้นห้าม เพราะเกรงนักกีฬาคนหนึ่งคนใดจะเป็นอันตราย ดังนั้น ในเวลาต่อมากีฬาชนิดนี้ได้ถูกยกเลิกไป
สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท