xs
xsm
sm
md
lg

“M Dent™” ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากแบรนด์ทันตแพทย์มหิดล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีมทันตแพทย์มหิดลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทันตกรรมภายใต้แบรนด์ “M Dent™” ขยายผลงานวิจัยจากหิ้งลงห้าง เพื่อลดปัญหาสุขภาพในช่องปากของคนไทย เน้นวัตถุดิบภายในประเทศ ผลิตโดยฝีมือคนไทย และลดการนำเข้าผลิตจากต่างประเทศ

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “ผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรม M Dent™” จำนวน 5 รายการ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2550 ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพมหานคร โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเกิดจากผลงานวิจัยของทีมทันตแพทย์ ม.มหิดล เพื่อลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทันตกรรมจากต่างประเทศ และให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 รายการประกอบด้วย วัสดุอุดฟันอะมัลกัม (Amalgam), วัสดุพิมพ์ปากอัลจิเนต (Alginate),สารทำความสะอาดคลองรากฟันเอนโดคลีน (Endo Clean), สารรักษาโรคติดเชื้อในคลองรากฟันเอนโดแคล (Endo Cal) และยาสีฟันเอ็มเดนท์ซอฟคูล (M Dent™ Soft Cool)

วัสดุอุดฟันอะมัลกัม

ศาสตราจารย์คลินิกชัชรี สุชาติล้ำพงศ์ หัวหน้าคณะวิจัยวัสดุอุดฟันอะมัลกัม กล่าวว่า ทางทีมงานใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพัฒนาวัสดุอุดฟันชนิดที่เป็นโลหะเจือเข้าปรอทหรือที่เรียกว่า อะมัลกัม โดยช่วงแรกของการวิจัยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น แล้วจึงพัฒนาสูตรเรื่อยมาโดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศ โดยเฉพาะดีบุกและปรอท ซึ่งวัสดุอุดฟันอะมัลกัมนี้มีความนุ่มนวลกว่า ทันตแพทย์ใช้ง่าย ไม่ต้องออกแรงกดมาก อุดได้ทั่วถึง และสึกกร่อนช้ากว่า

อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ที่เป็นแคปซูลเดียวแต่แบ่งช่องบรรจุสำหรับปรอทและผงโลหะแยกจากกันได้ เมื่อทันตแพทย์ต้องการใช้ เพียงแค่บิดแคปซูลเพื่อเปิดช่องภายในให้ปรอทผสมกับโลหะแล้วนำเข้าเครื่องผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งสะดวกต่อการใช้งาน ควบคุมปริมาณสารได้ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับปรอทโดยตรง

วัสดุพิมพ์ปากอัลจิเนต

ทางด้านศาสตราจารย์คลินิกจุไร นาคะปักษิณ ผู้คิดค้นวัสดุพิมพ์ปากอัลจิเนตสำหรับทำฟันปลอม เผยว่า อัลจิเนตเป็นวัสดุที่นิยมใช้ทำแม่พิมพ์อย่างแพร่หลายมากว่า 20 ปี โดยประเทศไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เฉพาะงานด้านทันตกรรมมีมูลค่านำเข้าช่วงปี 2549 – 2550 ประมาณ 10 – 15 ล้านบาท

ดังนั้น ศ.คลินิกจุไร และทีมงานจึงเริ่มคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตผงอัลจิเนตขึ้นมาใช้งานด้านทันตกรรม เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้เป็นอัลจิเนตที่สกัดได้จากสาหร่ายทะเลที่มีในประเทศไทย ได้วัสดุพิมพ์ที่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และคงตัว ที่สำคัญสามารถคัดลอกรายละเอียดได้มากถึง 25 ไมครอน ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานของไอเอสโอ 1563 (ISO 1563) กำหนดไว้เพียง 50 ไมครอน

นอกจากนี้ วัสดุพิมพ์ปากอัลจิเนตของศ.คลินิกจุไร ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ หรืองานศิลปะ ประติมากรรมต่างๆ ได้ด้วย

สารทำความสะอาดคลองรากฟันเอนโดคลีน

น้ำยาเอนโดคลีนสำหรับทันตแพทย์ใช้ล้างทำความสะอาดรากฟันของผู้ป่วย ผลงานวิจัยร่วมระหว่าง ศ.ละอองทอง วัชราภัย และ รศ.วนิดา แสงอลังการ ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยที่ฟันผุไม่ต้องถอนฟันได้ แต่ใช้วิธีรักษาคลองรักฟันแทน

ศ.ละอองทอง กล่าวว่า เมื่อฟันผุลุกลามไปถึงบริเวณรากฟัน แบคทีเรียจะทำร้ายเนื้อเยื่อในคลองรากฟัน ทำให้ปวด บวม อักเสบรุนแรง หรือเป็นหนอง และอาจลุกลามถึงปลายรากฟันได้ หากไม่ถอย แพทย์จะรักษาโดยการทำความสะอาดคลองรากฟัน กำจัดเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว และฆ่าเชื้อด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรต์ แต่บางทียังมีคราบสกปรกหลงเหลืออยู่ในส่วนท่อเนื้อฟันที่เครื่องมือทำความสะอาดเข้าไม่ถึง ทำให้แบคทีเรียถูกกำจัดไม่หมดและลุกลามขึ้นได้อีก

เอนโดคลีนนี้จะใช้ร่วมกับนำยาฆ่าเชื้อ สารสำคัญในเอนโอคลีนจะช่วยให้คราบสกปรกต่างๆ แตกตัวได้ดี โดยเฉพาะในท่อเนื้อฟัน ทำให้น้ำยาฆ่าเชื้อออกฤทธิ์กำจัดแบคทีเรียได้หมดจด ซึ่งจะทำให้การรักษาในขั้นต่อไปได้ผลดียิ่งขึ้น อุดฟันได้แนบเนียนสนิท สร้างเนื้อเยื่อกระดูกปลายรากฟันขึ้นใหม่ได้ 

สารรักษาโรคติดเชื้อในคลองรากฟันเอนโดแคล

ส่วนเอนโดแคลเป็นสารรักษาคลองรากฟันที่ใช้ในขั้นตอนต่อจากการทำความสะอาดคลองรากฟัน ซึ่ง รศ.วนิดา อธิบายว่า โดยทั่วไปจะใช้แคลเซียมไฮดรอกไซด์ผสมน้ำใส่ในคลองรากฟันแล้วอุดชั่วคราว นาน 7 วัน เพื่อให้แคลเซียมไฮดรอกไซด์ช่วยกำจัดแบคทีเรียที่หลงเหลืออยู่และส่งเสริมภาวะที่เหมาะสมต่อการสร้างเนื้อเยื่อกระดูก หลังจากนั้นจึงอุดฟันถาวร

อย่างไรก็ดี ขณะผสมแคลเซียมไฮดรอกไซด์กับน้ำ จะมีการดึงเอาคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมาทำปฏิกิริยาด้วย ทำให้ยากหมดฤทธิ์เร็ว เกิดแคลเซียมคาร์บอเนต (หินปูน) เกาะอยู่ในคลองรากฟัน และล้างออกยาก ส่งผลให้วัสดุอุดไม่แนบสนิท เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การรักษาไม่ได้ผล

อีกทั้งผู้ปฏิบัติการอาจผสมในสัดส่วนไม่พอเหมาะและค่าพีเอช (pH) ไม่เหมาะสม ทำให้แบคทีเรียในช่องปากชนิดเอนเทอโรคอคคัส ฟีคาลิส (Enterococcus feacalis) ที่ทนทานความเป็นกรดด่างถึงพีเอช 11 ไม่ถูกกำจัด

ฉะนั้น จึงพัฒนาแคลเซียมไฮดรอกไซด์รูปแบบกึ่งแข็ง เรียกว่า เพสต์ (paste) ขึ้นมาโดยให้มีค่าพีเอชเท่ากับ 12.5 โดยนำเอาโปรพัยลีนกลัยคอล (propylene glycol) มาใช้เป็นกระสายยาแทนน้ำ ซึ่งมีความหนืดสูงกว่า จึงควบคุมการละลายของแคลเซียมไฮดรอกไซด์เพสต์ให้ออกฤทธ์ได้ยาวนานกว่า และมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว ช่วยให้กำจัดแคลเซียมไฮดรอกไซด์เพสต์ออกจากคลองรากฟันได้ง่าย

ยาสีฟันเอ็มเดนท์ซอฟคูล


รศ.วนิดา ยังเป็นหัวหน้าทีมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสีฟันเอ็มเดนท์ด้วย โดยโครงการนี้ต่อยอดมาจากโครงการหน่วยทันตกรรมพระราชแก่ผู้ยากไร้ ที่คณะทันตแพทย์จะต้องเดินทางไปให้บริการงานทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และพบว่าหลายพื้นที่ขาดแคลนยาสีฟัน จึงผลิตยาสีฟันเอ็มเดนท์ขึ้นมาและมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อแจกจ่ายประชาชนเหล่านั้น โดยเปิดตัวครั้งแรกในงานประชุมวิชาการนานาชาติแถบลุ่มแม่น้ำโขง เมื่อปี 2547

ยาสีฟันที่ผลิตขึ้นนี้มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เป็นหลัก และลดการใช้ส่วนผสมที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น สารที่ทำให้เกิดฟอง, สารปรุงแต่งกลิ่นและรสต่างๆ ซึ่งเหล่านี้มีส่วนในการทำลายเยื่อบุผิวในช่องปาก และทำให้เกิดอาการแพ้ได้ รวมทั้งไม่ผสมสารกันบูด แต่สามารถเก็บไว้ได้นานมากกว่า 2 ปี และปลอดภัยต่อผู้ใช้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก” รศ.วนิดา กล่าว

คณะทันตแพทย์ของ ม.มหิดล ได้นำผลิตเหล่านี้มาใช้ในงานทันตกรรมแล้วมากกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ทันตกรรมเอ็มเดนท์อื่นๆ อีก เช่น แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และผลิตภัณฑ์ทันตกรรมสำหรับทันตแพทย์ ซึ่งเหล่านี้มีจำหน่ายที่คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล ซอยโยธี ถ.พระรามหก ตรงข้ามโรงพยาบาลรามาธิบดี และกำลังขยายตลาดโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายเพื่อเข้าถึงประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ และในอนาคตอาจมีวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วย



เอนโดคลีน (ซ้าย) และเอนโอแคล (ขวา)

กำลังโหลดความคิดเห็น