เอพี/นิวไซน์เอนติสท์ – นักบรรพชีวินบนเกาะอังกฤษพบฟอสซิลก้ามแมงป่องทะเลอายุ 390 ล้านปีในเมืองเบียร์ ครั้นนำมาประมวลผลผ่านคอมพิวเตอร์ กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ตัวยาว 2 เมตรครึ่ง พอๆ กับรถเก๋งคันงาม นับเป็นแมงยักษ์ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา
มาร์คุส พอชมันน์ (Markus Poschmann) นักบรรพชีวินแห่งแผนกวิทยาศาสตร์โลก (Department of Earth Sciences) มหาวิทยาลัยบริสตอล (University of Bristol) สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ได้ค้นพบซากฟอสซิลก้ามของแมงป่องโบราณ โดยเขียนรายงานลงวารสาร “ไบโอโลจี เล็ตเทอร์ส” (Biology Letters) ของราชบัณฑิตยสถานแห่งอังกฤษ (Royal Society) ฉบับวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทีมวิจัยของพอชมันน์ค้นพบฟอสซิลดังกล่าวเมื่อหลายปีก่อน ระหว่างการขุดค้นในเหมืองใกล้เมืองพรุม (Prüm) ประเทศเยอรมนี ซึ่งในอดีตพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเคยเป็นปากแม่น้ำหรือเป็นหนองน้ำมาก่อน
“ผมวางมือจากค้อนและสิ่วทันทีที่เริ่มจะนึกได้ว่า แผ่นหินสีดำที่พบน่าจะเป็นชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิต และเมื่อทำความสะอาดแล้ว ก้ามของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็ปรากฏ” พอชมันน์เล่า
เขาจึงตัดสินขุดมันออกมา แม้จะไม่มั่นใจว่าจะนำออกมาได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดหรือไม่ จากนั้นจึงทำความสะอาด ทำให้แห้ง และนำกาวมาต่อชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน ต่อมาจึงใช้ปูนปลาสเตอร์ขาวเพื่อทำให้ฟอสซิลก้ามแมงป่องทะเลความยาว 46 ซม. นี้มีความแข็งแรงมากขึ้น
ทว่าในการขุดค้นกลับไม่พบส่วนซากใดๆ นอกเหนือจากก้ามหลงเหลืออยู่เลย คาดว่าเนื่องจากก้ามที่มีความแข็งแรงกว่าส่วนอื่นๆ มาก จึงเหลือรอดผ่านเวลามาได้เพียงส่วนเดียว
จากนั้น ทีมวิจัยได้ใช้คอมพิวเตอร์ร่างภาพแมงป่องเจ้าของก้ามอันใหญ่โตนี้ออกมาเป็นผลสำเร็จ มีความยาวถึง 2.5 เมตรใหญ่กว่ามนุษย์ยุคปัจจุบัน และขนาดพอๆ กับรถยนต์หนึ่งคันเลยทีเดียว
ทีแรกทีมวิจัยคาดว่าเจ้าแมงป่องยักษ์นี้น่าจะมีความยาวถึง 2.6 เมตร ซึ่งอาจจะดูใหญ่เกินจริงไป จึงปรับให้เหลือเพียง 2.5 เมตร อันน่าจะใกล้เคียงขนาดที่แท้จริงมากที่สุด
“เป็นการค้นพบที่สุดมหัศจรรย์” ไซมอน แบรดดี (Simon Braddy) นักบรรพชีวินจากมหาวิทยาลัยบริสตอลซึ่งร่วมงานวิจัยครั้งนี้กับพอชแมนน์กล่าว อีกทั้งการค้นพบครั้งนี้เสริมความเชื่อที่ว่า แมลง แมง หรือสัตว์จำพวกปูในยุคโบราณมีขนาดมหึมากว่าที่เห็นในปัจจุบันมาก
“เรารู้มาเป็นเวลาหนึ่งแล้วจากฟอสซิลของสัตว์พวกกิ้งกือ แมงป่องตัวใหญ่ๆ แมลงสาปตัวเขื่อง หรือแม้แต่แมงปอไซส์จัมโบ้ว่ามันมีอยู่จริง แต่เราไม่ยักจะรู้มาก่อนว่าจะมีสัตว์โบราณที่คลานต้วมเตี้ยมบนพื้นดินที่มีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้” แบรดดี เสริม
ทั้งนี้ ขนาดมหึมาของแมงป่องทะเลที่ค้นพบครั้งนี้ผิดจากที่คาดกันก่อนหน้าถึงกว่า 30 ซม.และเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่วิวัฒนาการมาในธรรมชาติ โดยความยาวของมันมากกว่าความสูงเฉลี่ยของคนด้วย
แบรดดี ให้รายละเอียดเพิ่มด้วยว่า ฟอสซิลแมงป่องทะเลที่พบมีวิวัฒนาการมาจาก ยาเอเคิลออปเทรุส เรนาเนียเอ (Jaekelopterus Rhenaniae) แมงป่องโบราณชนิดหนึ่งที่พบเฉพาะในทะเลแถบประเทศเยอรมนีเมื่อ 390 ล้านปีก่อนเท่านั้น ซึ่งนักภูมิศาสตร์บางรายเชื่อว่าแมงป่องทะเลยักษ์นี้น่าจะเกิดขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีก๊าซออกซิเจนในชั้นบรรยากาศปริมาณมาก แต่คงไม่มากเท่าในปัจจุบัน
ส่วนของสันนิษฐานอื่นๆ เช่น ขนาดอันใหญ่โตของร่างกายและก้ามของมันอาจวิวัฒนาการมาเพื่อช่วงชิงอำนาจกับปลาที่น่าจะเป็นเหยื่อของมันซึ่งพัฒนาเกราะแข็งมาหุ้มกายก็ได้ หรือแม้แต่ข้อสันนิษฐานว่า ร่างกายที่ใหญ่โตของมันอาจเป็นทางตันของวิวัฒนาการที่ทำให้มันสูญพันธุ์
แบรดดี ยังบอกอีกว่า แมงป่องทะเลยักษ์โบราณชนิดนี้ยังเป็นพวกกินเนื้อพวกเดียวกันเองด้วย โดยมันจะต่อสู้กันและกินฝ่ายที่แพ้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่กระตุ้นให้เจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์พวกนี้ต้องมีขนาดใหญ่เท่าที่จะทำได้
“การต่อสู้แข่งขันระหว่างแมงป่องและเหยื่อของมันน่าจะเป็นเหมือนการแข่งขันกันด้านนิวเคลียร์ ในความพยายามที่ต่างฝ่ายต่างจะทำให้มีอาวุธที่ใหญ่ที่สุด” แบรดดี กล่าว โดยอีกหลายร้อยล้านปีต่อมา พัฒนาการของมันก็เหนือกว่าสัตว์มีกระดูกสันหลังอย่างมนุษย์เราไปแล้ว
ขณะที่ ศ.ยอร์ก ชไนเดอร์ (Prof. Jörg W. Schneider) นักบรรพชีวินจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและเหมืองแร่แห่งไฟรเบิร์ก (Freiberg Mining Academy) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ซึ่งไม่ได้ร่วมขุดค้นครั้งนี้เสริมว่า เจ้าแมงป่องทะเลยักษ์ดังกล่าว น่าจะเป็นสัตว์ที่ไม่มีศัตรูในธรรมชาติเลยก็ได้ เนื่องจากขนาดตัวอันใหญ่โตของมัน
สอดคล้องกับ พอล เซลเดน (Paul Selden) จากมหาวิทยาลัยแคนซัส (University of Kansas) สหรัฐฯ ที่ชี้ว่า มันน่าจะเป็นสุดยอดนักล่าในเวลานั้น อย่างไรก็ดี เมื่อปลาขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับโครงสร้างขากรรไกรและฟันอันแข็งแรง แมงป่องโบราณนี้ก็ยากที่จะหนีรอดจากการสูญพันธุ์ได้
นอกจากนั้น เชื่อกันว่า “ยูริพเทอริด” (eurypterids) หรือแมงป่องทะเลโบราณอาจเป็นบรรพบุรุษที่อยู่ในน้ำของแมงป่องในปัจจุบัน และอาจรวมไปถึงสัตว์ในไฟลัมอาร์โทรพอด (arthropod) คลาส “อะแรชนิด” (arachnids) หรือสัตว์ที่มีขาเชื่อมต่อๆ กัน และไม่มีกระดูกสันหลังอย่างแมงมุม แมงป่อง เห็บหมัด ไร และแมงดาทะเล (horseshoe crab) ทั้งหมดด้วย