ในปี 2278 (รัชสมัยพระบรมโกศ) Carl von Linnaeus ได้เรียบเรียงตำราเล่มหนึ่งขึ้นชื่อ System of Nature ซึ่งว่าด้วยการจำแนกและจัดกลุ่มของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เขาได้เขียนว่า โลกมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า Homo monstrosus ซึ่งเป็น 'มนุษย์' ที่มีรูปลักษณ์แตกต่างจากคนทั่วไปทุกวันนี้มาก ทั้งนี้เพราะ Linnaeus และปราชญ์ในสมัยนั้นเชื่อว่า ณ ดินแดนที่ไกลโพ้นมีสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายคน แต่มีนิสัยและพฤติกรรมที่พิลึกพิสดารมากมาย
ความจริงความเชื่อทำนองนี้ได้มีมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว จากคำบอกเล่าของนักผจญภัยและนักสำรวจต่างๆ ที่ได้อ้างว่า ในดินแดนที่ตนไปเยือนมีคนที่มีหัวสุนัข คนที่มีจมูกเหมือนหมู และคนที่มีปากเหมือนนก เป็นต้น และบุคคลแรกที่ได้เอ่ยถึงอมนุษย์เหล่านี้ คือ Herodotus ผู้เป็นนักประวัติศาสตร์กรีกที่มีชีวิตในสมัยพุทธกาล และได้เคยเดินทางท่องเที่ยวไปไกลๆ ครั้นเวลากลับถึงกรีซก็ได้เขียนเล่าว่า ในดินแดนที่ยิ่งไกลจากกรีซ พฤติกรรมของคนในบริเวณนั้นก็ยิ่งแปลก เช่น ที่ Ethiopia มีคน Troglodyte ที่ชอบอาศัยอยู่ใต้ดิน และกินงูกับกิ้งก่าเป็นอาหาร อีกทั้งเสียงพูดเหมือนค้างคาว ส่วนคน Atlante ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้ภูเขา Atlas ในแอฟริกาเหนือนั้นไม่รู้จักฝัน เพราะฝันไม่เป็น และสำหรับชาว Indian Padaei นั้น ถ้าใครล้มป่วยก็จะถูกเพื่อนจับกินทันที เป็นต้น
เมื่อ ‘คน’ ที่กล่าวนี้ มีนิสัยประหลาด ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าสงสัยสำหรับ Herodotus ที่จะคิดว่าคนเหล่านี้ก็ต้องมีรูปร่างประหลาดด้วย ดังนั้น Herodotus จึงได้รายงานว่า ผู้ชายชาว Agrippaei ที่อาศัยอยู่แถบแม่น้ำ Don มีศีรษะล้านทุกคน และคนเผ่านี้มีเท้าเหมือนแพะ อีกทั้งชอบจำศีลเหมือนหมี ส่วนคนเผ่า Arimaspi นั้น มีตาเพียงตาเดียวอยู่กลางหน้าผาก และคน Libya บางคนไม่มีหัว แต่บางคนมีหัวเป็นสุนัข กับมีตาอยู่ที่หน้าอก เป็นต้น ณ วันนี้เรารู้ว่า Herodotus ได้ข้อมูลลักษณะนี้จากการได้ยินข่าวขณะเดินทางผ่านพื้นที่ต่างๆ โดยไม่ได้เห็น ‘อมนุษย์’ เหล่านั้นด้วยตา
Herodotus มิได้เป็นบุคคลเดียวที่เอ่ยถึง คนตาเดียว ฯลฯ แม้แต่ Homer ก็เคยเอ่ยถึงยักษ์ตาเดียว Cyclops และคนแคระ แต่ Homer ไม่ได้ระบุว่า ยักษ์ Cyclops อยู่ที่ใดบนโลก ในขณะที่ Herodot กล่าวอย่างชัดเจนว่า ‘คนประหลาด’ อาศัยอยู่ที่ใด ส่วนชาวกรีกคนอื่นๆ นั้นก็รู้มานานแล้วว่า ไกลจากประเทศที่ตนอาศัยอยู่ ผู้คนมีอารยธรรมและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนตนเลย ดังนั้น เวลามีข่าวแปลกๆ ทุกคนจึงคิดว่าเป็นไปได้ทั้งนั้น
หลังจากที่ Herodotus เสียชีวิต ประมาณ พ.ศ. 100 Ktesias ผู้เคยเป็นแพทย์ประจำราชสำนักแห่งกษัตริย์เปอร์เซีย ได้เล่าว่า ในอินเดียมีตัว Sciapode ที่มีขาเดียว และใช้เท้ากระโดดเวลาเดิน หรือเวลาฝนตก และแดดออกก็จะใช้เท้านั้นกางต่างร่ม ส่วนพวก Cynocephalus นั้น มีศีรษะเป็นสุนัขและใช้วิธีเห่าเวลาต้องการสื่อสาร สำหรับพวก Blemmyae นั้นไม่มีหัว และมีใบหน้าอยู่ระหว่างไหล่ทั้งสองข้าง
ใน พ.ศ. 217 เมื่อจักรพรรดิ Alexander มหาราชทรงกรีธาทัพบุกอินเดียเหล่าปราชญ์ที่ตามเสด็จพระองค์ได้บันทึกเรื่องประหลาดๆ ที่พบเห็นในอินเดียมากมาย แต่งานเขียนเหล่านี้ได้สาบสูญไปหมดแล้ว จะมีเหลือก็แต่หนังสือชื่อ Romance of Alexander ที่มีคนเขียนขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.343 และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษา ข้อสังเกตหนึ่ง คือ หนังสือนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับอินเดียทั้งที่จริงและไม่จริง และถึงแม้จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอมนุษย์ โดยปราชญ์หลายคน แต่นักภูมิศาสตร์ชื่อ Strabo ผู้เคยมีชีวิตอยู่ในยุคพระเยซูก็ไม่เชื่อ โดยบอกว่า ความคิดใดๆ ที่ว่ามีอมนุษย์อาศัยอยู่บนโลกนี้ทุกเรื่องเป็นเรื่องเหลวไหล
สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท
