xs
xsm
sm
md
lg

UN ชี้ ทั่วโลกต้องเลือกห้ามโคลนนิ่งคน หรือให้สิทธิมนุษย์‘สำเนาพันธุ์’เต็มขั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเยนซี - โลกของเราอาจจะต้องเลือกระหว่างออกกฎหมายห้ามโคลนนิ่งมนุษย์ หรือตระเตรียมหนทางเพื่อปกป้องมนุษย์โคลนนิ่งจากการถูกล่วงละเมิดหรือถูกเลือกปฏิบัติ งานศึกษาขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุ

คณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาขั้นสูง แห่งมหาวิทยาลัยสหประชาชาติ (U.N. University's Institute of Advanced Studies) กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลต่างๆ ไม่สั่งห้ามการโคลนนิ่งมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์คงจะสามารถโคลนนิงมนุษย์สำเร็จไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ไม่ว่าประชาคมนานาชาติจะเลือกหนทางไหน พวกเขาจะต้องลงมือทำโดยเร็ว ไม่ว่าจะเลือกป้องกันไม่ให้มีการโคลนนิ่งเพื่อการสืบพันธุ์ หรือเลือกปกป้องสิทธิมนุษยชนของมนุษย์โคลนนิ่ง” เอ.เอช. ซาครี (A.H. Zakri) ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาขั้นสูงแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น กล่าว

“ในบรรดาตัวเลือกที่มีอยู่ การห้ามสร้างมนุษย์โคลนนิ่งทั่วโลกแบบมีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยให้ประเทศต่างๆมีเสรีภาพที่จะอนุญาตให้มีการวิจัยเพื่อบำบัดรักษาภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด มีความเป็นไปได้ทางการเมืองมากที่สุด” งานศึกษาระบุ

การเจรจาเรื่องการห้ามทำโคลนนิ่งทั่วโลกเมื่อปี 2005 ล้มพับไป เพราะไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะอนุญาตให้โคลนนิ่งเพื่อการวิจัย เพื่อช่วยรักษาโรค เช่น เบาหวาน หรือ อัลไซเมอร์ หรือไม่

รัฐบาลเกือบทุกประเทศไม่เห็นด้วยกับการโคลนนิ่งเพื่อการสืบพันธุ์ และกว่า 50 ประเทศ ได้ออกกฎหมายห้ามทำโคลนนิ่งแล้ว

แต่ถ้ารัฐบาลต่างๆไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายห้าม พวกเขาควรหันมาเตรียมมาตรการทางกฎหมายอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องมนุษย์โคลนนิ่งที่ “อาจถูกล่วงละเมิด อคติ และเลือกปฏิบัติได้” งานศึกษาชี้

การโคลนนิ่งเพื่อการวิจัยหรือบำบัดรักษา สามารถเพาะเนื้อเยื่อที่มียีนเหมือนคนต้นแบบทุกประการ จึงสามารถเพาะเซลล์เพื่อนำมารักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง, การบาดเจ็บไขสันหลัง, เบาหวาน, พาร์คินสัน หรืออัลไซเมอร์

เมื่อปี 2005 ยูเอ็นมีปฏิญญาที่ไม่มีผลผูกพัน ห้ามทำโคลนนิ่งมนุษย์ แต่ว่ายังมีจุดคลุมเครืออยู่มาก “ตัวปฏิญญาเองไม่ได้เป็นคำตอบที่เพียงพอ” เบรนแดน โทบิน (Brendan Tobin) ผู้เขียนงานศึกษา จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไอร์แลนด์ (National University of Ireland) กล่าว

“มันทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่นักวิทยาศาสตร์อิสระ สามารถทำวิจัยของพวกเขาต่อไปได้ และนั่นน่าจะนำไปสู่การโคลนนิ่งในที่สุด” เขากล่าวกับรอยเตอร์

บรรดาผู้เขียนงานศึกษาชิ้นนี้บอกว่า กฎหมายควรให้สิทธิมนุษยชนกับมนุษย์โคลนนิ่งอย่างเต็มขั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกเลือกปฏิบัติ

ไม่เช่นนั้น เป็นต้นว่าในกรณีพิพาทเรื่องมรดก ฝ่ายตรงข้ามกับมนุษย์โคลนนิ่งอาจจะบอกว่า มนุษย์โคลนนิ่งและคนต้นแบบ ควรจะได้ส่วนแบ่งกันคนละครึ่ง

“มนุษย์โคลนนิ่งจะเป็นปัจเจกชน ในลักษณะเดียวกับที่ฝาแฝดแท้แต่ละคนเป็นปัจเจกชน” โทบินกล่าว

รายงานดังกล่าวชี้ว่า ได้มีการทำโคลนนิ่งหนู แกะ หมู วัว และสุนัข มาแล้ว และเมื่อปีที่แล้ว นักวิจัยสหรัฐฯทำโคลนนิ่งลิงใหญ่สำเร็จมาแล้ว โดยโคลนนิ่งเซลล์จากลิงตัวเต็มวัย จนได้ตัวอ่อน แล้วนำตัวอ่อนนั้นมาเพาะสเต็มเซลล์

งานศึกษาชิ้นนี้ยังระบุด้วยว่า การออกกฎหมายห้ามโคลนนิ่งเฉพาะบางประเทศ จะทำให้มีการหลีกเลี่ยงกฎหมายได้ เพราะนักวิจัยสามารถย้ายไปวิจัยที่อื่นได้ง่ายดาย
กำลังโหลดความคิดเห็น