เอพี/เอเยนซี - พบซากฟอสซิลไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ในอาร์เจนตินา อายุ 88 ล้านปี คาดเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในโลก บริเวณเดียวกันยังพบฟอสซิลพืชและสัตว์อื่นๆ ร่วม 1,000 ตัวอย่าง นักวิทยาศาสตร์ถึงกับจินตนาการบริเวณดังกล่าวเป็น “เดอะ ลอส เวิรล์ด” ของแท้
นักบรรพชีวินวิทยาบราซิลและอาร์เจนตินาที่ร่วมกันขุดค้นฟอสซิลโบราณ รายงานการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบในวารสารบราซิลเลียน อะคาเดมี ออฟ ไซน์ (Brazillian Academy of Science) และคาดว่าเป็นไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มไดโนเสาร์กินพืช ทั้งยังพบฟอสซิลพืชในบริเวณใกล้เคียง
ฟอสซิลไดโนเสาร์กินพืชที่พบนี้คือ "ฟูทาลองกอซอรัส ดูกี" (Futalognkosaurus dukei) ซึ่งคำแรกมาจากภาษามาปูเช (Mapuche) ของชนเผ่าพื้นเมืองในอเมริกาใต้ หมายถึง เจ้าแห่งสัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ ส่วนคำหลังมาจากชื่อบริษัทดุค เอนเนอจี คอร์ป (Duke Energy Corp) ของสหรัฐฯ ที่ให้ทุนนักวิทยาศาสตร์สำรวจซากฟอสซิลดังกล่าว
“ฟอสซิลไดโนเสาร์ตัวนี้นับว่าใหญ่ที่สุดในโลกตัวหนึ่ง และมีความสมบูรณ์มากที่สุดในบรรดาไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ใกล้เคียงกัน” คอร์เค คาลโว (Jorge Calvo) ผอ.ศูนย์ศึกษาซากดึกดำบรรพ์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโคมาฮูเอ (National University of Comahue) ประเทศอาร์เจนตินา หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว
คณะสำรวจพบฟอสซิลของ ฟูทาลองกอซอรัส ดูกี ครั้งแรกเมื่อปี 2543 บริเวณใกล้กับทะเลสาบบาร์เรียอาเลส (Barreales Lake) ทางตอนเหนือของที่ราบพาตาโกเนีย (Patagonia) ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งมีความสมบูรณ์ถึง 70% กระดูกส่วนลำคอขนาดใหญ่และยาวถึง 17 เมตร ส่วนหางน่าจะยาวประมาณ 15 เมตร
ความยาวตั้งแต่หัวจรดหางคาดว่ายาวเกือบ 35 เมตร สูงไม่ต่ำกว่า 13 เมตร และหนัก 9 ตันมีอายุราว 88 ล้านปี อยู่ในยุคครีเตเซียสตอนปลาย
อย่างไรก็ดี นักบรรพชีวินวิทยาเคยขุดพบซากฟอสซิลของไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่บริเวณที่ราบพาตาโกเนียมาก่อนแล้ว 2 สายพันธุ์ ได้แก่ อาร์เจนติโนซอรัส (Argentinosaurus) มีขนาดยาวประมาณ 35 เมตร และพูเออร์ตาซอรัส ริวอิลิ (Puertasaurus reuili) ขนาดราว 35–40 เมตร แต่พบฟอสซิลเพียง 10% เท่านั้น จึงไม่สามารถระบุขนาดที่แน่ชัดได้เมื่อเทียบกับฟอสซิลของ ฟูทาลองกอซอรัส ดูกี ที่มีความสมบูรณ์มากกว่า
ฟูทาลองกอซอรัส ดูกี ตัวนี้ตายลงอยู่ไม่ทราบสาเหตุ แต่นักบรรพชีวินวิทยาเชื่อว่ามันถูกไดโนเสาร์นักล่ากัดกินส่วนกล้ามเนื้อไป และกระดูกบางส่วนที่หาไม่พบคงถูกกระแสน้ำที่อยู่ใกล้เคียงพัดพาไปก่อนที่จะกลายเป็นฟอสซิล
ในบริเวณเดียวกันยังพบซากฟอสซิลทั้งของพืช ปลา และไดโนเสาร์อื่นๆ รวมอยู่ด้วยไม่ต่ำกว่า 1,000 ฟอสซิล เป็นพืช 240 ฟอสซิล ที่เหลือเป็นฟันและกระดูกของไดโนเสาร์และสัตว์อื่นๆ
ทีมสำรวจกล่าวว่า กรณีนี้นับว่าหายากมากที่จะพบทั้งฟอสซิลพืชและไดโนเสาร์อยู่ด้วยกัน ทำให้ทีมพวกเขาสามารถจินตนาการสภาพพื้นที่บริเวณที่ราบพาทาโกเนียเมื่อครั้งอดีตเป็นป่าใหญ่ที่มีอากาศร้อนชื้น และเต็มไปด้วยสัตว์โลกล้านปีราวกับนวนิยายเรื่องดัง “เดอะ ลอส เวิลร์ด” (The Lost World) แต่ในปัจจุบันพาตาโกเนียแทบจะไม่มีพืชพันธุ์ใดๆ เจริญเติบโตได้เลย