โป๊ปเรียกร้องเลิกวิจัยสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์

เอพี/เอเยนซี – โป๊ปเรียกร้องนักวิทยาศาสตร์ให้หยุดทำการวิจัยที่เกี่ยวกับสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ โดยเฉพาะตัวอ่อนที่เกิดจากการโคลนนิง ในความเห็นของผู้นำศาสนาคริสต์ การกระทำดังกล่าวเท่ากับเป็นการทารุณกรรมต่อชีวิตมนุษย์

งานวิจัยสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนกำลังมาแรงในการแพทย์ เพราะเชื่อว่ามีศักยภาพสามารถรักษาโรคต่างๆได้ แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นที่ถกเถียงในเรื่องของจริยธรรม ล่าสุดพระสันตะปาปาถึงกับออกโรงเรียกร้องให้นักวิทยาศาสตร์ล้มเลิกงานวิจัยสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ด้วยพระองค์เอง

พระสันตะปาปาเบเนดิกส์ที่ 16 ผู้นำสูงสุดของศาสนาคริสต์ มีจดหมายถึงจี-ยัง ฟรานเซสโก คิม (Ji-Young Francesco Kim) เอกอัคราชทูตเกาหลีใต้คนใหม่ที่มาประจำอยู่นครรัฐวาติกัน ซึ่งมีใจความขอร้องให้ยกเลิกไม่ให้มีงานวิจัยสเต็มเซลล์ตัวอ่อนของมนุษย์ และโคลนนิงตัวอ่อนมนุษย์เพื่อใช้ในการวิจัย เพราะเป็นการกระทำที่ทารุณโหดร้ายกับชีวิตมนุษย์ และไม่ว่าจะเป็นชีวิตช่วงไหนก็ถือว่าเป็นมนุษย์เช่นกัน

ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้เพิ่งประกาศอนุญาตให้มีการโคลนนิงตัวอ่อนมนุษย์เพื่อการวิจัยสเต็มเซลล์จากตัวอ่อนมนุษย์ได้เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่รัฐบาลเคยสั่งห้ามการวิจัยดังกล่าวเมื่อปี 2549

“การทำลายชีวิตตัวอ่อนมนุษย์ ไม่ว่าจะเพื่องานวิจัยหรือเพื่อจุดประสงค์ใดๆ ก็ตาม เป็นเรื่องที่นักวิจัย นักกฎหมาย และสาธารณชน ต้องถกเถียงกันถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน” พระสันตะปาปา ตรัส ซึ่งพระองค์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศีลธรรมจรรยาที่สถิตอยู่ในจิตสำนึกของชาวเกาหลีเมื่อครั้งที่มีห้ามโคลนนิงมนุษย์และงานวิจัยที่สืบต่อจากนั้น จะช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการให้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ และตั้งอยู่บนฐานของจริยธรรมที่เข้มแข็ง

แม้พระสันตะปาปาไม่เห็นด้วยกับการวิจัยสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ แต่พระองค์ยังให้การสนับสนุนงานวิจัยใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวอ่อนหรือไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว เช่น การโคลนนิงสเต็มเซลล์จากผู้ใหญ่สำหรับเก็บสเต็มเซลล์มาใช้รักษาโรค ที่เรียกว่า “เธอราเพียวติก โคลนนิง” (therareutic cloning)

อย่างไรก็ดี ผู้นำศาสนาคริสต์ยังได้กล่าวสรรเสริญเกาหลีใต้ที่สามารถยับยั้งการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือได้สำเร็จ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของพระองค์ที่นานาประเทศร่วมมือกันหยุดการกระทำอันนำมาซึ่งอาวุธสงครามเพื่อการทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม